หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

สุพรรณบุรี ชาวบ้านติดป้ายร้อง คสช.ช่วยด้วยไม่รู้จะพึ่งใครขโมยชุมกว่ายุง



              ที่ จ.สุพรรณบุรี ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีชาวบ้านหมู่บ้านโพธิ์พระยา หมู่ 7 ต.โพธิ์พระยา ถูกขโมยขึ้นบ้านขโมยทรัพย์สิน เกือบทั้งหมู่บ้าน พร้อมขึ้นป้ายไวนิวผืนใหญ่ ที่กำแพงบ้าน จึงไปตรวจสอบหมู่บ้านดังกล่าวไม่มีชื่ออยู่ริมถนนสายสุพรรณบุรี-ชัยนาท ใกล้สี่แยกไฟแดงโพธิ์พระยา ห่างป้อมตำรวจประมาณ 150 เมตรมีป้ายไวนิว ขนาดความสูง 1.20 เมตรยาว 5 เมตร มีข้อความ  คสช.ช่วยด้วย ไม่รู้จะพึ่งใครได้ ขโมยชุมกว่ายุง ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก หมู่บ้านนี้โดนขโมยขึ้นกว่า 10 ครั้งแล้วไม่มีอะไรให้ขโมยแล้ว หาเงินไม่ทัน คืนความสุขให้ประชาชนทีเถอะ คสช.จ๋า



              จากการสอบถาม น.ส.กุลภัสสรณ์ วจนะเสถียร อายุ 37 ปีอยู่บ้านเลขที่ 341/30 อยู่หมู่บ้านดังกล่าวเล่าว่าตนเป็นข้าราชการ ระดับ 6 ตำแหน่งนักบริหารงานทั่วไป เทศบาลตำบลบ้านโพธิ์ เล่าว่าที่บ้านถูกขโมยบุกเข้ามาขโมยทรัพย์สินช่วงกลางวันช่วงที่ตนออกไปทำงานโดยคนร้ายปีนเข้าทางหลังบ้านซึ่งมีป่าหญ้าขึ้นรกทึบแล้วทุบกระจกบานเกร็ดเข้ามาขโมยทรัพย์สินมีค่าต่างๆในบ้านไปจนไม่เหลือ สร้างความหวาดกลัวให้ตนเป็นอย่างมากจนต้องจ้างช่างมาติดเหล็กดัดเสริมเพื่อป้องกันโจรเข้ามาขโมยอีก ซึ่งตอนนี้ไม่เหลืออะไรแล้วซึ่งนอกจากบ้านของตนแล้ว ในหมู่บ้านนี้เกือบทุกหลังถูกโจรแสบบุกเข้าไปขโมยทรัพย์สินมาแล้วเมื่อเร็วๆนี้บ้านตรงข้ามก็ถูกคนร้ายเข้ามางัดขโมยทรัพย์สินตนเกรงจะเข้ามาที่บ้านอีกจึงรีบทำป้ายมาติดป้องกันไว้ก่อน หลังจากที่ตนนำป้ายมาติดก็มี ตำรวจอาสามาดู และตำรวจสายตรวจเข้ามาขอร้องให้ตนเอาป้ายลงโดยบอกว่าจะนำตู้แดงมาติดให้




               ทางด้านนายวิศรุติ เกตุมณี อายุ 46 ปีหัวหน้างานสำรวจชลประทานสามชุก และ นางวิภาวรรณ เกตุมณี อายุ 46 ปีข้าราชการครูชำนาญการ โรงเรียนศรีประจันต์เมธีประมุข อยู่บ้านเลขที่ 341/31 ซึ่งอยู่บ้านติดกันเล่าว่าที่บ้านตนอยู่ติดกับบ้านายตำรวจระดับรอง ผกก.ยังถูกคนร้ายเข้ามาโจรกรรมทรัพย์สินถึง 2 ครั้งแรกเมื่อเดือน พฤษภาคม ปี 2556 คนร้ายได้ทรัพย์สินไปประกอบด้วยพระเครื่องเลี่ยมทอง 30 กว่าองค์พระเครื่องเนื้อเงินเลี่ยมเงิน 60 กว่าองค์ทองรูปพรรณหลายรายการอาวุธปืนขนาด 11 มม.และ ขนาด 9 มม.รวมมูลค่าเกือบ 2 ล้านบาทที่เก็บไว้ในห้องนอนโดยคนร้ายอาศัยช่วงที่ตนออกไปทำงานเข้ามาก่อเหตุหลังเกิดเหตุตนจึงได้ติดกล้องวงจรปิดและเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม เวลากลางวันกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพคนร้าย  ซึ่งน่าจะมีมากกว่า 2 คนขับรถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์สีขาวไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาจอดหน้าบ้าน 1 ในคนร้ายสวมหมวกปิดหน้าสวมถุงมือปีนรั้วเข้ามาใช้ชะแลงและคีมตัดเหล็กตัดกุญแจที่ล็อกประตูแล้วงัดบานประตูเข้ามา ในบ้านจากนั้นคนร้ายได้ตรงไปที่ห้องนอนโดยไม่สนใจแท็ปเล็ตกล้องวีดีโอ ที่วางอยู่ แล้วลากตู้เซฟซึ่งตนเก็บทรัพย์สินมีค่าเอาไว้มาเปิดแต่เปิดไม่ได้ คนร้ายยังเข้าไปในห้องนอนของลูกชายอีกแต่ครั้งนี้คนร้ายไม่สามารถนำเอาทรัพย์สินอะไรไปได้


             
              จึงแจ้งตำรวจมาตรวจสอบตนคิดว่าคนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะเป็นแก๊งเดียวกันที่เคยเข้ามาก่อเหตุ ซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบเก็บรายละเอียดจนป่านนี้คดียังไม่มีความคืบหน้าเพื่อนบ้านใกล้กันส่วนมากเป็นข้าราชการออกไปทำงานช่วงกลางวัน ก็ถูกคนร้ายเข้ามาโจรกรรมทรัพย์สินกันเกือบทุกบ้าน ทำให้รู้สึกว่าไม่มีความปลอดภัย จึงอยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยเข้มงวดกวดขันติดตามจับกุมคนร้ายด้วยและฝากถึงคุณโจรว่าไม่ต้องมาแล้วที่บ้านไม่เหลือทรัพย์สินอะไรแล้วถ้ามาอีกตนก็ต้องเสียเงินค่าซ่อมประตูบ้านอีก




ศูนย์ข่าวสุพรรณบุรี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น