หน้าเว็บ

วันพุธที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2558

สุพรรณบุรี เริ่มแล้ว การแข่งขันเนตบอลชิงแชมป์ประเทศไทย ครั้งที่ 12




            ที่โรงยิมเจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร โรงเรียนกีฬาสุพรรณบุรี ว่าที่ร้อยตรีสุพีร์พัฒน์  จองพานิช  ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี  เป็นประธานในการเปิดการแข่งขันกีฬาเนตบอลชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 12 ในวันนี้(30 ก.ย.58) โดยมี ดาตินซรีนฤมล ศิริวัฒน์ นายกสมาคมเนตบอลแห่งประเทศไทย  พร้อมด้วยนายสมชาย ประเสริฐศรี รองอธิการบดี สถาบันการพลศึกษาสุพรรณบุรี เป็นประธานดำเนินการจัดการแข่งขัน







            โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่า  ในนามของจังหวัดสุพรรณบุรี รู้สึกมีความยินดีที่ได้รับเกียรติจากสมาคมเนตบอลแห่งประเทศไทย ให้เป็นเจ้าภาพ  ในการจัดการแข่งขันกีฬาเนตบอลชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มียุทธศาสตร์สำคัญในการพัฒนากีฬาอย่างยั่งยืน   เป็นการส่งเสริมให้นักกีฬาเนตบอลที่เข้าร่วมการแข่งขันได้มีโอกาสพัฒนาฝีมือ และแสดงความสามารถ เพื่อที่จะก้าวไปสู่ความเป็นเลิศในการแข่งขันระดับนานาชาติต่อไป   ซึ่งการแข่งขันในครั้งนี้ นอกจากจะชิงความเป็นหนึ่งทางด้านกีฬาแล้ว สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งก็คือมิตรภาพที่ดี ความมีน้ำใจเป็นนักกีฬา และการเป็นเจ้าภาพที่ดีในการต้อนรับผู้มาเยือนทุกคน







           ด้านดาตินซรีนฤมล ศิริวัฒน์  นายกสมาคมเนตบอล กล่าวถึงการจัดการแข่งขันในครั้งนี้ว่า จัดขึ้นระหว่างวันที่ 30ก.ย.- 6 ต.ค.58    เพื่อพัฒนากีฬาเนตบอลให้กว้างขวางออกไปสู่เยาวชน และสถานศึกษาทั่วประเทศ และเพื่อเป็นการยกระดับมาตรฐานนักกีฬาเนตบอลของประเทศไทยให้สูงขึ้นสู่ระดับสากล รวมถึงเป็นการเสริมสร้างประสบการณ์การแข่งขันระดับประเทศให้แก่นักกีฬาตามสถานศึกษาต่าง ๆ และเพื่อเฟ้นหาตัวนักกีฬาที่มีความสามารถไปเป็นตัวแทนทีมชาติไทย รองรับกีฬาเนตบอลมนระดับนานาชาติต่อไป






เกรียงไกร ก่อเกียรติตระกูล บรรณาธิการข่าวท้องถิ่น อู่ทองนิวส์
เรวัติ น้อยวิจิตร hub admin rewat.noyvijit@hotmail.com 08-1910-7445

สุพรรณบุรี ทต.บางปลาม้า ฝึกอบรมแกนนำชุมชนด้านการนวดแผนไทยบำบัดและรักษาโรค




          จังหวัดสุพรรณบุรี  โดยเทศบาลตำบลบางปลาม้า ฝึกอบรมแกนนำชุมชนด้านการนวดแผนไทยบำบัดและรักษาโรค



  นายอภิชาติ  ชโลธร นายกเทศมนตรี


           นายอภิชาติ  ชโลธร นายกเทศมนตรีตำบลบางปลาม้า อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี เปิดเผยว่าการนวดแผนไทยหรือนวดแผนโบราณ  เป็นศาสตร์บำบัด  และรักษาโรคแขนงหนึ่งที่มีมายาวนานตั้งแต่สมัยโบราณสืบต่อมาจนถึงปัจจุบันซึ่งการนวด  นอกจากจะเป็นวิธีแรกมนุษย์รู้จักนำมาใช้รักษาอาการปวดแล้วยังสามารถช่วยเสริมในการบำบัดรักษาโรคได้อีกหลายชนิด เช่น  ไมเกรน  อัมพฤกษ์  เป็นต้น  การนวดแผนไทยได้บูรณาการมาใช้ร่วมกับการแพทย์สมัยใหม่ใน 3 รูปแบบ  ตามสรรพคุณ  คือ  นวดเพื่อสุขภาพ  เป็นการนวดเพื่อความผ่อนคลาย  บำรุงสุขภาพ  ทำให้สดชื่นกระฉับกระเฉง  ดังเช่น  สถานบริการนวดทั่วไป  สปาต่างๆ  เป็นการนวดที่มีให้บริการมากที่สุดในปัจจุบัน นวดเพื่อการบำบัดรักษา  ซึ่งได้ผลดีมากสำหรับคนไข้มีอาการปวดเรื้อรังของระบบ กระดูกและกล้ามเนื้อ เช่น ปวดหลัง  ปวดคอ เรื้อรัง สะบักจม  ไหล่ติด  รวมถึงนวดรักษาไมเกรน และนวดเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพ  เป็นการนวดเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัว เช่น  คนไข้เป็นอัมพฤกษ์  อัมพาต  เพื่อกระตุ้นให้ร่ายกายไม่ว่าจะเป็นระบบข้อต่อ  กล้ามเนื้อ  รวมถึงระบบไหลเวียนให้ฟื้นตัว  ซึ่งในมุมมองของแพทย์สมัยใหม่ เชื่อวาการนวดแบบนี้ช่วยลดการเกร็งของกล้ามเนื้อและยังช่วยให้คนไข้รู้สึกผ่อนคลายสบายตัว และลดอาการเครียดของผู้ป่วยเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี







                ทั้งนี้ เทศบาลตำบลบางปลาม้า  ได้เล็งเห็นถึงคุณค่าของผู้สูงอายุว่ามีความสำคัญต่อสังคมและชุมชนท้องถิ่น  อีกทั้งผู้สูงอายุเป็นวัยที่ต้องการการดูแลเอาใจใส่  ทั้งทางด้านร่างกาย  จิตใจ  และจะต้องได้รับการส่งเสริมในทางที่ถูกต้องและเหมาะสมตามสภาพร่างกายจึงได้จัดทำโครงการฝึกอบรมแกนนำชุมชนด้านการนวดแผนไทย  เพื่อให้แกนนำที่ผ่านการฝึกอบรมมีความรู้ความสามารถรวมถึงทักษะการนวดแผนไทยสามารถนำไปถ่ายทอดวิธีการนวดและการปฏิบัติกับผู้สุงอายุและผู้ป่วยติดเตียงในพื้นที่ได้อย่างถูกต้องเนื่องจากมีผู้สูงอายุจำนวน  463 คน  และมีผู้ป่วยติดเตียง จำนวน  15  คน  คิดเป็นร้อยละ 23.33 ซึ่งจากข้อมูลสาเหตุเจ็บป่วยเรื้อรังเกิดโรคระบบกล้ามเนื้อต่างๆ  จากการประกอบอาชีพและการทำงานหนัก  โรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง  ซึ่งทำให้เกิดอาการเหน็บชา  กล้ามเนื้ออ่อนแรง  อัมพฤกษ์  อัมพาต




เกรียงไกร ก่อเกียรติตระกูล บรรณาธิการข่าวท้องถิ่น อู่ทองนิวส์
เรวัติ น้อยวิจิตร hub admin rewat.noyvijit@hotmail.com 08-1910-7445

สระบุรี ม.พัน 11 รอ. ร่วมกับการค้าภายในจัดงาน “ ธงฟ้าราคาประหยัด และมีคุณภาพ ”ครั้งที่ 2






           เมื่อ  29 ก.ย.58 เวลา 14.00  - 18.00 น. กองพันทหารม้าที่ 11 รักษาพระองค์ นำโดย พ.ต.เดชาธร  สายหยุด  รองผู้บังคับกองพันทหารม้าที่11 รักษาพระองค์   ร่วมกับ การค้าภายในจังหวัดสระบุรี จัดตลาดนัด”ธงฟ้าราคาประหยัด”ลดราคา 20-30 % เพื่อ ลดค่าครองชีพประชาชน ประเภทเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพในปัจจุบัน  บริเวณถนนภายใน ม.พัน 11 รอ. เลียบ กับ ถนนพิชัยรณรงค์สงคราม ตรงข้ามสำนักงานอัยการสูงสุด







              พ.ต.เดชาธร  สายหยุด กล่าว่า เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชน ตาม นโยบาย ผู้บัญชาการทหารบก และรัฐบาล ตามโครงการ แบ่งเบาภาระ ค่าครองชีพของ เป็นการลดค่าใช้จ่าย ของประชาชน โดยให้หน่วยทหารเป็นตัวแทนในการตั้งพื้นที่ที่จะจำหน่ายสินค้าให้กับประชาชน เป็นการลดรายจ่าย โดย นำสินค้าราคาถูกจากกรมการค้าภายในมาจัดจำหน่าย ให้กับกำลังพลและประชาชนในพื้นที่  ได้ซื้อสินค้าในราคาถูก ได้จับจ่ายใช้สอยในการลดภาระในส่วนต่างๆ ดังนั้น ท่านพลตรี.สมโภชน์  วังแก้ว ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ พันเอก พนาเวศ  จันทรังษี  ผู้บังคับการ กรมทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ ได้ให้ กองพันทหารม้าที่11รักษาพระองค์ โดย พ.ท.ธนพล วงษ์สวัสดิ์ ผู้บังคับกองพันทหารม้าที่11 รักษาพระองค์ ได้ดำเนินโครงการ ดังกล่าวนี้ขึ้น








               หลังจากกองพันทหารม้าที่11รักษาพระองค์ได้เคยจัดโครงการอาหารราคาถูก ให้กับพี่น้องประชาชน ตามตลาดนัดชุมชนและจัดตลาดนัด”ธงฟ้าราคาประหยัด”ประจำทุกเดือน ประสบผลสำเร็จได้รับความสนใจจาก กำลังพลและพี่น้องประชาชนรอบค่าย เป็นอย่างดี กิจกรรมภายในงานประกอบไปด้วย การจัดจำหน่ายสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ โดยการจัดจำหน่ายสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ เช่น ข้าวสารถุงละ 5 กก. 65 บาทไข่ไก่  แผงละ 78 บาท น้ำตาลทราย,  น้ำมันพืช 3 ขวด 100 , สบู่  ยาสีฟัน และเครื่องอุปโภค บริโภค อื่นๆอีกมากมาย พร้อมนำรถครัวสนามเคลื่อนที่ออกจำหน่ายอาหาร กล่อง ตามสั่งราคาถูกจำหน่ายด้วยได้รับความสนใจจากชาวจังหวัดสระบุรีร่วมจับจ่ายใช้สอยได้ ในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก









(คนธรรมดา  ม้าตัวเดียว)
เรวัติ น้อยวิจิตร hub admin rewat.noyvijit@hotmail.com 08-1910-7445

วันอังคารที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2558

สระบุรี มอบบ้านให้แก่ผู้ยากไร้ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ




              จังหวัดสระบุรีมอบบ้านให้แก่ผู้ยากไร้ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ 5 รอบ 60 พรรษา 2 เมษายน 2558






               วันนี้ (29กันยายน 2558) เวลา 13.30 น. นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เป็นประธานมอบบ้านให้แก่ผู้ยากไร้ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ 5 รอบ 60 พรรษา โดยนางอังคณา พุฒิวิญญู นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสระบุรีและคณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดสระบุรีนำเครื่องอุปโภคบริโภคไปมอบให้ด้วย









               สำหรับโครงการก่อสร้างที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้ยากไร้ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสทรงมีพระชนมายุครบ 5 รอบ 60 พรรษา โดยจังหวัดสระบุรีได้ดำเนินการซ่อมซ่อมและปรับปรุงบ้านที่อยู่อาศัยให้ผู้ยากไร้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองอย่างมั่นคง ซึ่งการซ่อมแซมบ้านพักอาศัยในครั้งนี้ได้เข้าซ่อมแซมและก่อสร้างบ้านพักให้แก่นางสำรวย พรมศรีบ้านเลขที่ 11/1 หมู่ที่2ตำบลโคกแย้ อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี  เนื่องจากมีฐานะยากจน และบ้านที่อาศัยอยู่ชำรุดทรุดโทรมโดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณวัสดุในการก่อสร้างจากงบประมาณจำนวน  100,000บาท จากงบอบต.โคกแย้และบริษัทกระกระดาษไทย จำกัด(หนองแค) ใช้ช่างคุมงานและแรงงานจากองค์การบริหารส่วนตำบลโคกแย้และความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในชุมชน ในการก่อสร้างจนสำเร็จลุล่วงด้วยความเรียบร้อย และมอบให้กับนางสำรวย พรมศรี อายุ69ปีและครอบครัวได้เข้าพักอาศัย



             ต่อมาเวลา14.00น.ได้เดินทางมามอบบ้านหลังที่2ที่บ้านโคกม่วงที่ทำการซ่อมซ่อมและปรับปรุงบ้านที่อยู่อาศัยให้ผู้ยากไร้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองอย่างมั่นคง ซึ่งการซ่อมแซมบ้านพักอาศัยในครั้งนี้ได้เข้าซ่อมแซมและก่อสร้างบ้านพักให้แก่นาย สมพร สร้อยแก้ว อายุ67ปีบ้านเลขที่ 21/1 หมู่ที่1ตำบลคชสิทธิ์อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี  เนื่องจากมีฐานะยากจน และบ้านที่อาศัยอยู่ชำรุดทรุดโทรมโดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณวัสดุในการก่อสร้างจากงบประมาณจำนวน  90,000บาท จากงบสนับสนุนจากเหล่ากาชาดสระบุรีและได้รับการสนับสนุนปูนซิเมนต์จาก อบต.คชสิทธิ์และใช้ช่างคุมงานและแรงงานจากองค์การบริหารส่วนตำบลคชสิทธิ์และความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในชุมชน ในการก่อสร้างจนสำเร็จลุล่วงด้วยความเรียบร้อย และมอบให้กับนายสมพร สร้อยแก้วและภรรยาพร้อมครอบครัวได้เข้าพักอาศัยสร้างความปลื้มปิติแก่ผู้ได้รับพระมหาธิคุณที่พระองค์ทรงห่วงใยประชาชนผู้ยากไร้ได้มีที่อยู่อาศัยตลอดไป





(คนธรรมดา  ม้าตัวเดียว)
เรวัติ น้อยวิจิตร hub admin rewat.noyvijit@hotmail.com 08-1910-7445

สุพรรณบุรี จัดมหกรรมเยาวชนชี้นำ ศิลปวัฒนธรรมพื้นถิ่น





               ที่หอประชุมโรงเรียนเทศบาล 1 วัดประตูสาร อ.เมืองสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นประธานเปิดโครงการ มหกรรมเยาวชนชี้นำ ศิลปวัฒนธรรมพื้นถิ่นสุพรรณบุรี  พร้อมด้วยนายบุญชู จันทร์สุวรรณ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด สุพรรณบุรี นายเอกพันธุ์  อินทร์ใจเอื้อ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี พร้อมคณะสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดสุพรรณบุรี และนักเรียนกว่า 100 คน เข้าร่วมงาน





                 โดยนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี   กล่าวว่า ตามที่องค์การสหประชาชาติ ได้ประกาศให้ปี 2528 เป็นปีเยาวชนสากลและขอให้ประชาชนสมาชิกร่วมเฉลิมฉลองปีเยาวชนสากล ภายใต้คำขวัญ  “ร่วมแรงแข็งขัน ช่วยพัฒนา ใฝ่หาสันติ” โดยสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดสุพรรณบุรี มีการจัดกิจกรรมเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการส่งเสริมเด็กและเยาวชนให้มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ของกลุ่มต่าง ๆ ของจังหวัดอย่างเป็นระบบเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ที่ดีในด้านต่าง ๆ เพื่อจะได้ร่วมกันทำประโยชน์และสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ เพิ่มมากขึ้น




              ทั้งนี้ ภายในงานมีการแสดงจากนักเรียน มีการร่วมร้องเพลงมาร์ชเยาวชนชาติไทย มอบเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติให้กับเด็กและเยาวชนที่ทำคุณประโยชน์ให้กับจังหวัดสุพรรณบุรี และเยาวชนดีเด่นในสาขาต่าง ๆ มอบทุนการศึกษาให้เด็กนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 1 วัดประตูสาร อ.เมืองสุพรรณบุรี ได้มีการจัดนิทรรศการจากสภาเด็กและเยาวชนของแต่ละอำเภอ




เกรียงไกร ก่อเกียรติตระกูล บรรณาธิการข่าวท้องถิ่น อู่ทองนิวส์
เรวัติ น้อยวิจิตร hub admin rewat.noyvijit@hotmail.com 08-1910-7445

สุพรรณบุรี พร้อมเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันกีฬาเนตบอลชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย




             ว่าที่ร้อยตรีสุพีร์พัฒน์  จองพานิช  ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่า     สมาคมเนตบอลแห่งประเทศไทย   ร่วมกับ สภาบันการพลศึกษาวิทยาเขตสุพรรณบุรี และโรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี   จัดการแข่งขันกีฬาเนตบอลชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย  ครั้งที่ 12 ประจำปี   2558  ระหว่างวันที่ 30ก.ย.- 6 ต.ค.58   ซึ่งรู้สึกมีความยินดี  ที่จังหวัดสุพรรณบุรีได้รับเกียรติจากสมาคมเนตบอลแห่งประเทศไทย ให้เป็นเจ้าภาพ  ในการจัดการแข่งขันกีฬาเนตบอลชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มียุทธศาสตร์สำคัญในการพัฒนากีฬาอย่างยั่งยืน   เป็นการส่งเสริมให้นักกีฬาเนตบอลที่เข้าร่วมการแข่งขันได้มีโอกาสพัฒนาฝีมือ และแสดงความสามารถ เพื่อที่จะก้าวไปสู่ความเป็นเลิศในการแข่งขันระดับนานาชาติต่อไป   การแข่งขันในครั้งนี้ นอกจากจะชิงความเป็นหนึ่งทางด้านกีฬาแล้ว สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งก็คือมิตรภาพที่ดี ความมีน้ำใจเป็นนักกีฬา และการเป็นเจ้าภาพที่ดีในการต้อนรับผู้มาเยือนทุกคน







                ด้านว่าที่ร้อยตรี ดร.อานนท์   สำรวจการณ์  ผู้อำนวยการโรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี   กล่าวว่า     การเป็นเจ้าภาพ จัดการแข่งขันในครั้งนี้เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ด้านกีฬาของจังหวัดสุพรรณบุรี ดังที่ นายบรรหาร  ศิลปอาชา นายกสภาสถาบันการพลศึกษา เน้นการมีวิสัยทัศน์กว้างไกล  ปรารถนาให้กีฬาอยู่ในหัวใจของชาวสุพรรณบุรี  ตลอดจนเป็นการยกระดับมาตรฐานกีฬาเนตบอลของประเทศไทยให้สูงขึ้น รวมทั้งเสริมสร้างประสบการณ์การแข่งขันระดับประเทศให้แก่นักกีฬาเนตบอล สนับสนุน  ส่งเสริมนักเรียน  นักศึกษา  เยาวชน  และ  ประชาชนให้มีความตระหนักถึงประโยชน์ของการกีฬา เพื่อพัฒนาร่างกายและจิตใจ  รวมถึงการมีระเบียบ มีวินัย  มีน้ำใจนักกีฬา  การเคารพในกติกา และความสามัคคีในหมู่คณะอันเป็นพื้นฐานที่สำคัญของการปกครองของระบบประชาธิปไตย และเพื่อให้นักกีฬาได้เชื่อมความสัมพันธ์อันดีและมิตรภาพที่ดีต่อกัน






เกรียงไกร ก่อเกียรติตระกูล บรรณาธิการข่าวท้องถิ่น อู่ทองนิวส์
เรวัติ น้อยวิจิตร hub admin rewat.noyvijit@hotmail.com 08-1910-7445

สุพรรณบุรี รวมพลังภาคเอกชน ลงนามบันทึกข้อตกลงต้านการทุจริตคอร์รัปชัน



           ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน จังหวัดสุพรรณบุรี ลงนามบันทึกข้อตกลงด้วยความร่วมมือในการป้องกันและต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันระหว่างจังหวัดกับภาคเอกชน




           ว่าที่ร้อยตรี สุพีร์พัฒน์ จองพานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงด้วยความร่วมมือในการป้องกันและต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันระหว่างจังหวัดกับภาคเอกชน ณ ห้องประชุมขุนแผน ศาลากลางจังหวัดสุพรรณบุรี   โดย ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี  กล่าวว่า บันทึกข้อตกลงฉบับนี้ทำขึ้นระหว่างหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในการป้องกันและต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน ตามยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต นโยบายของรัฐบาลและแนวทางการป้องกันและต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน เพื่อให้เกิดการบริหารราชการแผ่นดินที่มีธรรมาภิบาล ป้องกันและต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันทั้งในภาครัฐ และภาคเอกชน  รวมทั้งประสานความร่วมมือในการตรวจสอบการดำเนินงานป้องกันการทุจริต อันจะส่งผลต่อการลดปัญหาการทุจริตของประเทศให้น้อยลง และเกิดประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน




             ทั้งนี้ ขอให้ผู้บริหารหน่วยงานองค์กรภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ และประชาชนชาวสุพรรณบุรี  ร่วมกันแสดงจุดยืน ต่อต้านการคอร์รัปชั่น เพื่อรเตือนภัยและตอกย้ำให้สังคมทุกภาคส่วน ได้มีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงค่านิยมของสังคม ด้วยการปฏิเสธไม่ยอมรับการทุจริตคอร์รัปชั่น อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา จังหวัดสุพรรณบุรี ได้จัดกิจกรรมต่างๆ  รณรงค์สร้างจิตสำนึกแก่คนในสังคมให้ ลด ละ เลิก และปฏิเสธการคอร์รัปชั่นทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปลูกจิตสำนึกแก่เด็กและเยาวชนคนรุ่นใหม่ให้เป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรม มีค่านิยมในความซื่อสัตย์สุจริต ตระหนักถึงผลเสียหายที่จะเกิดขึ้นแก่สังคมส่วนรวมอันเนื่องมาจากปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น




เกรียงไกร ก่อเกียรติตระกูล บรรณาธิการข่าวท้องถิ่น อู่ทองนิวส์
เรวัติ น้อยวิจิตร hub admin rewat.noyvijit@hotmail.com 08-1910-7445

สุพรรณบุรี คัดตัวเซปักตะกร้อนักเรียนไทยร่วมแข่งขันอาเซียนสคูลเกมส์ที่บรูไน




              สุพรรณบุรี   คัดตัวเซปักตะกร้อนักเรียนไทยร่วมแข่งขันอาเซียนสคูลเกมส์ที่บรูไน ผู้จัดการทีมจากสุพรรณบุรี ทุ่มงบดูแลค่าใช้จ่าย ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ธนบุรี นายกมล ตันกิมหงษ์  หัวหน้าผู้ฝึกสอนนักกีฬาเซปักตะกร้อชายทีมชาติไทย และนายวิทยา บุณยพัชรินทร์ ผู้จัดการทีมเซปักตะกร้อนักเรียนไทยอายุ 18 ปี ทำการคัดเลือกตัวนักกีฬาเซปักตะกร้อตัวแทนนักเรียนไทยรุ่นอายุไม่เกิน 18  ปี ที่จะเข้าร่วมแข่งขันที่บรูไน อาเซียนสคูลเกมส์ ระหว่างวันที่ 21-29 พ.ย.58 โดยมีทีมเซปักตะกร้อจากโรงเรียนต่างๆเข้าร่วมคัดตัวจากทั่วประเทศ โดยนายกมล กล่าวว่ากรมพลศึกษาได้หารือว่าจะทำอย่างไรให้ทีมตะกร้อนักเรียนไทยมีความพร้อม เนื่องจากงบประมาณของทางราชการนั้นเรามีเวลาเก็บตัวแค่เดือนเดียว ดังนั้นจะทำอย่างไรให้ทีมแข็งแกร่งและสมบูรณ์ จึงได้เชิญนายวิทยา มาเป็นผู้จัดการทีม เพื่อเตรียมทีมในด้านต่างๆ สำหรับความสมบูรณ์ของนักกีฬาในปีนี้ เราจะทำการปะลองกับนักกีฬาตะกร้อทีมชาติไทย และนักกีฬาตะกร้อไทยแลนด์ลีกของมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี โดยสถานที่เก็บตัวจะทำการฝึกซ้อมที่มหาลัยกรุงเทพฯส่วนหนึ่ง ก่อนที่จะตัดตัวเหลือตัวจริงและเดินทางไปเก็บตัวที่จังหวัดสุพรรณบุรี โดยนายวิทยา จะดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมด ต้องขอขอบคุณนายวิทยา ที่สละเวลาทั้งกำลังกายกำลังทรัพย์ด้วยใจรัก มาเป็นผู้จัดทีมตะกร้อนักเรียนไทยชุดที่จะเข้าร่วมแข่งขันที่บรูไน
“ต้องยอมรับว่าเราเป็นรองมาเลเซีย เพราะมาเลเซียมีการเก็บฝึกซ้อมมาอย่างยาวนาน และนำทีมที่เก็บตัวฝึกซ้อมมาแข่งขันในรายการคิงส์คัพที่ประเทศไทยแล้ว ฉะนั้นถือว่าความพร้อมความสมบูรณ์ของทีมมาเลเซียนั้นถือว่าแข็งแกร่งมาก แต่ของเราเพิ่งจะเริ่มทำการเก็บตัว เนื่องจากงบประมาณของทางราชการที่มีความจำกัด”





                   ด้านนายวิทยา บุณยพัชรินทร์ ผู้จัดการทีมฯกล่าวว่าการคัดตัวนั้นจะเน้นนักกีฬาที่มีความสามารถจริงๆจะไม่มีการใช้เส้นสายหรือถือพวกถือพ้องแต่อย่างใด และคณะกรรมการคัดเลือกถือว่าเป็นมีคุณวุฒิจากหลายๆจังหวัด ในนามของผู้จัดการทีมฯจะให้ความเป็นธรรมกับทุกทีมที่มาจากทั่วประเทศในการคัดตัวครั้งนี้ การเข้ามาตรงนี้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคนไม่หวังผลประโยชน์ แต่ทุกคนมาด้วยใจ จะด้วยงบประมาณเท่าไหร่ก็ยอม เพื่อชื่อเสียงของประเทศชาติ เราทำเพื่อส่วนรวมด้วยจิตมุ่งมั่นที่อยากเห็นเซปักตะกร้อเป็นกีฬาอันดับต้นๆของโลกให้ได้ หลังจากคัดตัวในครั้งนี้ก็จะเก็บตัวที่จังหวัดสุพรรณบุรี โดยตนและนายบุญชู จันทร์สุวรรณ นายก อบจ.จะดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมด จึงอยากฝากถึงพี่น้องชาวไทยทุกคนว่าเราทุกคนมีความมุ่งมั่น มีความศรัทธา และจะทำให้ดีที่สุด


เกรียงไกร ก่อเกียรติตระกูล บรรณาธิการข่าวท้องถิ่น อู่ทองนิวส์
เรวัติ น้อยวิจิตร hub admin rewat.noyvijit@hotmail.com 08-1910-7445