หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ททท. สุพรรณบุรี จัดกิจกรรมโครงการ “ เที่ยวไทยเท่ ไม่สร้างขยะ ลดโลกเลอะ ”



             การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) องค์กรหลักในการส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศไทย มีความตระหนักในเรื่องปัญหาทรัพยากรธรรมชาติ และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จึงได้วางกลยุทธ์กระตุ้นการท่องเที่ยวในการสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ตามแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อสัมผัสวิถีไทย (Unique Local Experience) และสร้างกระแสใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยร่วมกันรณรงค์ปลูกจิตสานักและกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวรับผิดชอบต่อทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ลดการสร้างภาระขยะในแหล่งท่องเที่ยว โดยได้ทาปฏิญญา “เที่ยวไทยเท่ ไม่สร้างขยะ ลดโลกเลอะ” ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อเป็นการลดการใช้พลาสติกในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้ลดลง ร้อยละ 50 ภายในปี 2563 พร้อมกับการมุ่งประชาสัมพันธ์ให้เกิดกระแสการท่องเที่ยวแบบรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ให้นักท่องเที่ยวและเจ้าของพื้นที่ได้ตระหนักถึงปัญหาขยะของแหล่งท่องเที่ยวที่เกิดจากการทากิจกรรมทางการท่องเที่ยว ซึ่ง ททท. พร้อมสนับสนุน ให้คาแนะนาในการลดการสร้างขยะ หรือพลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง (Single-use Plastics) และการใช้วัสดุทดแทนพลาสติก เช่น การใช้ถุงผ้า ขวดน้าพกพา กล่องข้าวพกพา หลอดดูดน้าจากวัสดุธรรมชาติ การใช้ผ้าเช็คหน้า เป็นต้น เพื่อเป็นการปรับพฤติกรรมการท่องเที่ยวไปพร้อม ๆ กัน และเป็นไปตามเจตจานงในปฏิญญา “เที่ยวไทยเท่ ไม่สร้างขยะ ลดโลกเลอะ”





            ททท. สานักงานสุพรรณบุรี จัดกิจกรรมโครงการ “เที่ยวไทยเท่ ไม่สร้างขยะ ลดโลกเลอะ @ สุพรรณบุรี” ในวันที่ 1 ธันวาคม 2561 เวลา 08.30 – 10.00 น. ณ หัตถกรรมสานบ้านต้นตาล (สุ่มปลายักษ์) อาเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อประชาสัมพันธ์ รณรงค์ให้ทุกภาคส่วน ทุกหน่วยงานในจังหวัดสุพรรณบุรี ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน พ่อค้าแม่ค้า ชุมชนท้องถิ่น และประชาชน ได้รับทราบและตระหนักถึงการลดปริมาณขยะ โดยบอกผ่านนักท่องเที่ยวไม่ทิ้งขยะในระหว่างเดินทางท่องเที่ยว เพื่อรักษาแหล่งท่องเที่ยวให้สวยงาม และเปิดแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็น Landmark ของแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นประติมากรรมจากภูมิปัญญาของคนใน ชุมชนต้นตาล “หัตถสานบ้านต้นตาล” โดยมีการทากิจกรรม CSR ทาความสะอาดแหล่งท่องเที่ยวร่วมกันกว่า 220 คน โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรม CSR ได้แก่ ชุมชนบ้านต้นตาล ชุมชนแม่พระประจักษ์ ชุมชนบางเลน ชุมชนต้นสะตือ และพ่อค้าแม่ค้าตลาดน้าสะพานโค้ง จานวน 100 คน หัวหน้าส่วนราชการและภาคีเครือข่าย จานวน 30 คน นักท่องเที่ยวที่สนใจสมัครเข้าร่วมกิจกรรมกับ ททท. สานักงานสุพรรณบุรี จานวน 10 คน พนักงาน ททท. และจิตอาสาจากส่วนกลาง ประมาณ 30 คน สื่อมวลชนท้องถิ่นและส่วนกลาง ประมาณ 50 คน

            นอกจากนี้จังหวัดสุพรรณบุรี โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ร่วมรณรงค์งดการใช้ถุงพลาสติก ในวันที่ 4 ของทุกเดือน คือ “วันงดแจกถุงพลาสติกทั่วประเทศ” โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม 2561


เกรียงไกร ก่อเกียรติตระกูล บรรณาธิการข่าว 
เรวัติ น้อยวิจิตร Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com 081-9107445

สระบุรี อำเภอวังม่วง เปิดตัว 3 ชุมชน เชิญท่องเที่ยวเอกลักษณ์สัมผัสธรรมชาติแบบโอท๊อปนวัตวิถี



           วังม่วงเปิดตัว 3 ชุมชน เชิญท่องเที่ยวเอกลักษณ์สัมผัสธรรมชาติแบบโอท๊อปนวัตวิถี อิน ฟิล ชิม ช๊อบ เช๊คอิน บรรยากาศธรรมชาติท้องถิ่น ช่วงฤดูหนาว
       



            สระบุรี ช่วงเข้าฤดูหนาว ที่เข้ามาถึงในช่วงนี้ ด้าน นาย  ศราวุธ  สุวรรณจูฑะ  นายอำเภอ วังม่วง จ. สระบุรี   เผยว่าในช่วงนี้เข้าสู่ฤดูหนาว ซึ่งทางด้านในพื้นที่อำเภอวังม่วง จ. สระบุรี ในฐานะที่ตนเองเป็นพ่อเมืองในพื้นที่ จึงได้อยากเชิญชวนประชาชนักท่องเที่ยว มาเที่ยวชมบรรยากาศแบบเอกลักษณ์สัมภัสสธรรมชาติแบบโอท๊อปนวัตถีของ 3 ชุมชน ที่ได้อารมณ์แห่งการท่องเที่ยว  อิน ฟิล ชิม ช๊อบ เช๊คอิน   ซึ่งในพื้นที่จะบรรยากาศธรรมชาติท้องถิ่น ซึ่งทาง อำเภอวังม่วง ได้เปิดตัวการท่องเที่ยวแบบนวัตวิถี 3 ชุมชน ได้แก่ ชุมชน หมุ่บ้านคลองกระทิง ซึ่งดั้งเดิมชาวบ้าน เป็นชาวเชื้อสายลาวแง้ว ที่เคยถูกกวาดต้อนมาจากเขตชนบทเวียงจันช่วงสงครามยุครัตน์โกสินธุ์ ซึ่งมีภาษาลาวแง้วเป็นท้องถิ่นและชมหัตกรรมชาวบ้าน








            อีกหนึ่งพื้นที่เป็นหมุ่บ้านชุมชนหนองไซร์ ซึ่งเดิมเป็นพื้นที่ป่าพญาเย็นได้อพพยบมา 2 กลุ่ม  มาตั้งถิ่นฐานอยุ่ บ้านวังยาง และบ้านหนองไซร์  ซึ่งในพื้นชุมชนที่มีทิวทัศน์สายงาม โดยกลุ่มชาวบ้านนี้จะยึดโยงกับความเชื่อเกี่ยวกับบ่อน้ำทิพย์ศักดิ์สิทธิ์   อีกหนึ่งหมุ่บ้านก็คือหมุ่บ้านท่าฤทธิ์ ซึ่ง เป็นหมุ่บ้านอันเก่าแก่สมัยรัชกาลที่ 4  ที่ยังคงมีความสมบูรณ์ ของเรือนโบราณ  และหัตกรรมจักรสานใบลาน และการทำข้าวต้มลูกโยน ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวนี้จะอยุ่ติดริมเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จะมีบรรยาการศอันสวยงามมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงตะวันตกดินภาพบรรยากาศจะงดงามตระกาลตา
 





            นาย  ศราวุธ  สุวรรณจูฑะ  จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมกับบรรยากาศธรรมชาคิ สุดคุ้ม ซึ่ง ถ้าเส้นทาง จาก กรุงเทพ มาในพื้นที่ ก็ใช้เส้นทาง ถนนพหลโยธิน วิ่งมาถึง  อ.พัฒนานิคม  เข้าเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เข้าสู่ อ. วังม่วง    สระบุรี   หรือ อีกเส้นทาง จาก กรุงเทพ มาตามถนนพหลโยธิน เลี้ยวขวาเข้าสุ่ ถนนมิตรภาพ  เข้าทาง อ. แก่งคอย สุ่ อ. ว่งม่วง หรือ เข้า เส้นทาง อ. มวกเหล็ก จง สระบุรี สุ่ อ. วังม่วง ซึ่ง ทั้ง 3 เส้นทาง ระยะทางการวิ่ง ใช้เวลา 2 ชม. ก็ถึง  ท่านก็ได้ได้ชมความงามจากธรรมชาติเขิงวิถีชาวชุมชุน 3 ชุมชน  แถมยังได้ อิน ฟิล ชิม ช๊อบ เช๊คอิน สุดคุ้ม




 



สมพงษ์ ปานรุ่ง/รายงาน (คนธรรมดา ม้าตัวเดียว)บรรณาธิการข่าว
เรวัติ น้อยวิจิตร Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com 081-9107445

ทุกข์ชาวบ้าน จากปัญหาความเดือดร้อนกลิ่นสารเคมีบ่อขยะ ตำบลหนองปลาไหล จ.สระบุรี ไม่คืบ !!



             สระบุรี.กลุ่มชาวบ้านตำบลหนองปลาไหล 9 หมู่บ้านกว่า 500 คนกลุ่มชาวบ้าน ต.หนองปลาไหล ผู้รับความเดือดร้อนกลิ่นสารเคมีบ่อขยะ เริ่มขยายวงกว้างขอความช่วยเหลือปิดการทำงานลดกลิ่นสารเคมี เพื่อให้ตรวจสอบกลิ่นในโรงงานบ่อขยะ





           วันที่ 29 พ.ย.61เวลา09.00น. หลังจากเมื่อวันที่ 26 พ.ย. 61 ที่ผ่านมาได้มีกลุ่มชาวบ้าน พระ ครูนักเรียน จากหลายหมู่บ้านใน ต.หนองปลาไห อ.เมือง จ.สระบุรี มีนางจิตราภา ศรสิทธิ์และชาวบ้านร้องเรียนถึงผลกระทบจากกลิ่นสารเคมีที่กระจายฟุ้งมาในอากาศ ทำให้ชาวบ้าน ครูนักเรียนและพระ ได้รับผลกระทบจากการสูดดมกลิ่นขยะสารเคมี จนทำให้แสบจมูก แสบตา หายใจไม่ออก บางคนเจ็บป่วย ที่สูกดมกลิ่นสารเคมี จากบ่อขยะที่รับจำกัดขยะสารเคมี  จนทนไม่ไหว ซึ่งกลุ่มชาวบ้าน ครูนักเรียน พระ ต้องทนทุกข์ทรมานมาร่วม 20 ปี






             ขณะที่ผ่านมาหน่วยงานราชการลงตรวจเพื่อแก้ไขแต่ก็ยังมีผลกระทบจากกลิ่นดังกล่าวจนชาวบ้านสุดทน  จึงออกมาเรียกร้องดังนี้

         1.ให้ดูแลเรื่องกลิ่นภาย 5 วัน
         2.ให้ดูแลเรื่องน้ำเสียที่ชาวบ้านไม่สามารถทำนาได้ทันที่เพื่อหาค่าพีเอ๊กร์และทางด้านผู้แทนอุตสาหกรรมจังหวัดสระบุรีรัยทำตามชาวบ้านเรียกร้องทันที่โดยจะลงไปเก็บน้ำเสียบริเวณที่ชาวบ้านต้องการและพร้อมแจ้งผลขั้นต้นส่วนที่เหลือน้ำไปตรวจที่ห้องแลปต่อไป
         3.เรื่องรถที่ขนสารเคมีทั้งคืนให้หยุดวิ่งหลังเวลา 20.00 น.และให้ลดความเร็วและปิดผ้าใบให้สนิทให้เวลาแค่5วัน
         4.สรุปว่าทั้งหมดที่ชาวบ้านเรียกร้องขอให้หน่วยงานราชการรีบแก้ไขให้เสร็จภายใน15วัน





          ทุกเรื่องตามที่ร้องขอ ถ้ายังไม่ดำเนินการจะรวมตัวอีกครั้ง เพื่อติดตามหนังสือที่เคยส่งให้ทางศูนย์ดำรงธรรมและรวบรวมจะรายชื่อชาวบ้านที่เดือดร้อนไปตามผลที่ศูนย์ราชการจังหวัดสระบุรีขอพบผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีเท่านั้นไม่ขอพบผู้แทนหรือผู้ที่ไม่สามารถสั้งปิดโรงงานเพื่อให้ปรับปรุงแก้ไขปัญหโดยอาศัยอำนาจตามกฏหมาย ทางหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จในวันและเวลาดังกล่าวให้ได้ หรือแก้ไขให้เสร็จทุกกรณีด้วย ที่ทางส่วนราชการจะมีการตั้งจิตอาสาดมกลิ่นที่เป็นตัวแทนชาวบ้านหมู่บ้านละ 5 คน นั้นชาวบ้านไม่ขอรับการเป็น อาสาดมกลิ่นเพราะปัจจุบันดมกลิ่นมาทุกวันอยู่แล้ว ถ้าคิดแบบนี้จะเป็นการเอาเงินกองทุนของบริัษัท   มาซื้อประชาชน ทางอ้อมรับไม่ได้





             การเข้าตรวจ บริษัทฯและให้สื่อมวลชนท้องถิ่นและสื่อมวลชนส่วนกลาง เข้าพื้นที่ตรวจสอบภายในโรงงานต้องอนุญาตให้เข้าได้ ถ้าทางโรงงานบริสุทธิ์ใจกับประชาชนแบบจริงใจให้สมเป็นโรงงานสีขาวทำได้หรือไม่และที่สำคัญทางโรงงานต้องรักษามาตราฐานในการฉีดสเปร์ดับกลิ่นตลอด24ชั่วโมงด้วยถ้าทำไม่ได้ให้ปิดโรงงาน





            จากนั้นผู้แทนอุตสาหกรรมและตัวแทนชาวบ้านได้เดินทางไปเก็บตัวอย่างน้ำ และจะยังไม่ได้ยื่นรายชื่อชาวบ้านที่ลงชื่อขอให้ปิดกิจการ จะกลับไปรวบรวมรายชื่อก่อน นัดหมายชุมนุมในวันพรุ่งนี้30พ.ย.61 เวลา 09.00 น. ณ วัดอรัญญวาสี (เขาจำปา) เพื่อหาทางดำเนินการต่อไป




(คนธรรมดา  ม้าตัวเดียว)   บรรณาธิการข่าว 
เรวัติ น้อยวิจิตร Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com 081-9107445

พล.ต.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ มอบบ้าน โครงการปรับปรุงซ่อมแซมที่อยู่อาศัยให้กับ ผู้ยากจนและด้อยโอกาส พื้นที่ อ.สามชุก



           เมื่อ ๒๗ พ.ย.๖๑ , พล.ต.วสุ เจียมสุข ผบ.บก.ควบคุม กกล.รส.จว.ส.พ.(มทบ.๑๗) ให้การต้อนรับ พล.ต.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ รอง มทภ.๑ ในโอกาสเดินทางมามอบบ้าน โครงการปรับปรุงซ่อมแซมที่อยู่อาศัยให้กับ ผู้ยากจนและด้อยโอกาส ในเขต จ.สุพรรณบุรี







              ผลการปฏิบัติ : ได้ส่งมอบบ้านหลังใหม่ให้กับนายมัด เกิดสมบุญ อายุ ๗๐ ปี บ้านเลขที่ ๑ หมู่๖ ต.วังลึก อ.สามชุก จว.ส.พ. และ บ้านนางมณี มังคะลา อายุ ๖๙ ปี บ้านเลขที่ ๓๓ หมู ๖ ต.วังลึก อ.สามชุก จว.ส.พ. ซึ่งทั้งสองคนและครอบครัวมีความดีใจและซาบซึ่งที่ทหารและส่วนราชการต่างๆให้ความช่วยเหลือและไม่ทอดทิ้งคนยากจน











อำนวย  เดชทองคำ  ศูนย์ข่าวท้องถิ่นออนไลน์  รายงาน
เรวัติ  น้อยวิจิตร  Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com  081-9107445

วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ชป.กร.ช.พัน.4 พล.ร.4 (ขุนอาสา 303) จัดกิจกรรม บรรยายนำเสนอ ศาสตร์พระราชา อ.แม่เปิ่น จว.นครสวรรค์



           เมื่อวันที่ 28 พ.ย.61 เวลา 09.00 - 12.00  น.  ณ ศาลาประชาคม อ.แม่เปิ่น จว.นครสวรรค์  ชป.กร.ช.พัน.4 พล.ร.4  พร้อมด้วย นายอำเภอแม่เปิน นายกอบต.อ.แม่เปิ่น ผอ.ศูนย์เมล็ดพันธ์ข้าว จ.นครสวรรค์ พัฒนาชุมชน จ.นครสวรรค์ และ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หน.ส่วนราชการในพื้นที่ อ.แม่เปิ่น
 จัดกิจกรรมบรรยายนำเสนอ ศาสตร์พระราชา ความรู้คู่แผ่นดิน สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนและสำนึกในความรักของสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มีผู้เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 219 คน






             ภายในกิจกรรมมีการเสริมสร้างอุดมการณ์รักชาติ และสถาบันพระมหากษัตริย์ สืบสาน พระราชปณิธาน ของ ร.9 ถึง ร.10  การเสริมสร้างความรัก ความสามัคคีของคนในหมู่บ้าน/ชุมชน การเสียสละเพื่อประโยชน์ส่วนรวม และการทำความดีด้วยหัวใจ (จิตอาสา)





อำนวย  เดชทองคำ  ศูนย์ข่าวท้องถิ่นออนไลน์  รายงาน
เรวัติ  น้อยวิจิตร  Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com  081-9107445

ชป.กร.ส.พัน.23 ทภ.3 (ขุนอาสา 301) ร่วมกิจกรรมอำเภอยิ้มเคลื่อนที่ อ.สามง่าม จว.พิจิตร



          เมื่อวันที่ 28 พ.ย.61 เวลา 09.00 - 12.00  น. ณ ศาลาการเปรียญวัดหนองโสน  ต.หนองโสน อ.สามง่าม จ.พิจิตร ชป.กร.ส.พัน.23 ทภ.3 พร้อมด้วย ปลัดอำเภอสามง่าม,นายกอบต.หนองโสน.ผกก.สภ.หนองโสน และ หน.ส่วนราชการในพื้นที่ อ.สามง่าม จว.พิจิตร มีกิจกรรการบรรยาย นำเสนอ ศาสตร์พระราชา และสำนึกในความรักของสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ผู้เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 70 คน









           ภายในงานมีการเสริมสร้างอุดมการณ์ ปลูกฝังอุดมการณ์รักชาติ และสถาบันพระมหากษัตริย์ สืบสาน พระราชปณิธาน ของ ร.9 ถึง ร.10 การเสริมสร้างความเข้าใจ เสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจศาสตร์พระราชา ในเรื่อง หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เสริมสร้างความรัก ความสามัคคีของคนในหมู่บ้าน/ชุมชน การเสียสละเพื่อประโยชน์ส่วนรวม และการทำความดีด้วยหัวใจ (จิตอาสา)  และร่วมกับส่วนราชการในพื้นที่เยี่ยมผู้ป่วยติดเตียงในพื้น ต.หนองโสน จำนวน 2 ราย






 อำนวย  เดชทองคำ  ศูนย์ข่าวท้องถิ่นออนไลน์  รายงาน
เรวัติ  น้อยวิจิตร  Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com  081-9107445

พิธีเจริญพระพุทธมนต์ ถวายพระพรชัยมงคล ครั้งที่ ๑๑ ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๑



           พิธีเจริญพระพุทธมนต์ ถวายพระพรชัยมงคลแด่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง ครั้งที่ ๑๑ ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๑













           วันพุธที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ เวลา ๑๖.๐๐ น. พระพรหมวชิรญาณ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดยานนาวา ปฏิบัติหน้าที่แทน สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ถวายพระพรชัยมงคลแด่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ ครั้งที่ ๑๑ ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๑ ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง โดยมีพระสังฆาธิการในเขตกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายอภิชาต อภิชาตบุตร รองปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส









             ในการนี้ นายสมเกียรติ ธงศรี รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ นายณรงค์ ทรงอารมณ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ข้าราชการ ทุกหมู่เหล่า รวมถึง พุทธศาสนิกชนเข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก ซึ่งทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้คอยอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนพร้อมมอบหนังสือเจริญพระพุทธมนต์ให้กับผู้ที่เข้าร่วมพิธีด้วย



 
 

 
 
 

 
 





กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ /ข่าว
เรวัติ  น้อยวิจิตร  Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com  081-9107445