หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2561

Open House " ศุภมิตร มิตรดี ที่คุณอุ่นใจ ” เปิดบ้านครบรอบ 27 ปี พบมิติ คลินิกสุขภาพดี ..



             ทันตแพทย์อนุศักดิ์  คงมาลัย  ประธานกรรมการเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า บริษัทโรงพยาบาลศุภมิตร มหาชน จำกัด  ก่อตั้งโดย นายแพทย์เมธ โชคชัยชาญ ด้วยเป้าหมายนโยบายที่มุ่งมั่นพัฒนาอย่างต่อเนื่อง   มีวัตถุประสงค์ในการให้การรักษาพยาบาลผู้ป่วยทุกสาขาตลอด 24 ชม. เปิดดำเนินการเมื่อ 1 ต.ค. 2534 และเตรียมจัดงานครบรอบ 27 ปี   Open House เปิดบ้าน 27 ปีศุภมิตร ในวันที่  1 ตุลาคม 2561เริ่มตั้งแต่เวลา 09.30 -15.30 น. พิธีเจริญพระพุทธมนต์ ฉลองครบรอบ 27 ปี  /ถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์จำนวน  9  รูป โดยได้รับเกียรติจาก นายบุญชู  จันทร์สุวรรณ  นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเป็นประธานเปิดงาน ที่บริเวณจุดบริการผู้ป่วยนอก





               ชมบูธกิจกรรมแผนกต่างๆ การตรวจประเมินภาวะสุขภาพ  “Wellness Clinic” คลินิกสุขภาพดี  มิติใหม่ของการดูแลสุขภาพก่อนที่จะเกิดปัญหาเรื่องของสุขภาพ เช่น ก่อนที่ข้อเข่าจะเสื่อมเราควรปฏิบัติตนอย่างไร เพราะแต่ละคนย่อมมีวิธีปฏิบัติที่แตกต่างกันไป นอกจากนี้ยังมีการเสวนา เรื่องภาวะวิกฤติหลอดเลือดในสมอง โดย พญ.ธนิดา กสิกรอุดมไพศาล  แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรกรรมเวชบำบัดวิกฤต ร่วมกับ วิทยากรจากบริษัท GE Healthcare Thailand /การใช้ไซโครนิวโรบิคส์ชั้นสูง ในการรักษาอาการคล้ายโรคกระเพาะอาหารที่รักษายาก โดย พันโทนายแพทย์สุนทร อุ้ยศรีคูณ  (โซน4 บริเวณ CT 128Slices) ตลอดจนการแสดงภาพหลอดเลือดสมองและหลอดเลือดหัวใจด้วย “เครื่อง CT 128slices” เพื่อค้นหา การเกิดโรคหลอดเลือดตีบตัน ป้องกันการเกิดโรคอัมพาตและโรคหัวใจวายเฉียบพลัน




                นอกจากนี้ ยังนิทรรศการและการออกบูธต่างๆมากมาย และร่วมสนุกจับฉลากแจกของที่ระลึก  พร้อมรับ road mapและของที่ระลึก (โซน1 บริเวณService Center)  สำหรับผู้ที่มาร่วมงานตลอดทั้งวัน  สามารถลงทะเบียนเพื่อรับคิว ตรวจการทำงานของปลายประสาท และตรวจวัดระดับการมองเห็น ได้ที่ Line : @supamitr หรือลงทะเบียนได้ที่ https://goo.gl/forms/GioOdx8Fw3cdNTTA3    ทั้งนี้ ขอเชิญผู้สนใจร่วมกิจกรรม Open House เปิดบ้าน 27 ปีศุภมิตร ได้ตามวันเวลาและสถานที่ดังกล่าว



 


 เกรียงไกร ก่อเกียรติตระกูล บรรณาธิการข่าว 
เรวัติ น้อยวิจิตร Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com 081-9107445

ผอ.สคร.5 ราชบุรี ขอความร่วมมือประชาชนกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย ป้องกันโรคไข้เลือดออก



              ผอ.สคร.5 ราชบุรี ขอความร่วมมือประชาชนกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย ป้องกันโรคไข้เลือดออก เผยปีนี้พบผู้ป่วยเกือบครึ่งเป็นกลุ่มวัยรุ่นและวัยเรียน
       
             นายแพทย์สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 จังหวัดราชบุรี กล่าวว่า  ช่วงนี้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกในหลายพื้นที่ ทำให้เกิดน้ำขังในภาชนะต่างๆ ซึ่งยุงลายสามารถแพร่พันธุ์ได้มากขึ้น ขอให้ประชาชนสำรวจรอบบ้านหลังจากฝนตก ตรวจดูภาชนะที่มีน้ำขัง หากพบให้คว่ำทันที         เพื่อป้องกันไม่ให้ยุงลายวางไข่ สถานการณ์โรคไข้เลือดออกในปีนี้ ตั้งแต่ 1 มกราคม - 25 กันยายน 2561    พบผู้ป่วย 59,104 ราย เสียชีวิต 74 ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่นและวัยเรียน อายุ 10 - 24 ปี จำนวน 27,694 ราย คิดเป็นร้อยละ (46.8)

             นอกจากนี้ยังพบว่าประชาชนมีความเข้าใจผิด คิดว่าโรคไข้เลือดออกสามารถซื้อยาแผนปัจจุบันมากินเองได้ ทั้งนี้ การซื้อยากินเองอาจเสี่ยงต่อการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น หากมีอาการไข้สูงเฉียบพลันและไข้นานเกินกว่า 2 วัน อ่อนเพลีย ปวดเมื่อย อาจมีผื่นขึ้นใต้ผิวหนังตามแขน ขา ข้อพับ ควรรีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลโดยเร็ว เพื่อรับการวินิจฉัย
     
            นายแพทย์สมาน กล่าวอีกว่า 6 พื้นที่ที่ต้องระวังเป็นพิเศษคือ 1.โรงเรือน (บ้าน/ชุมชน) 2.โรงเรียน (สถานศึกษา/สถานเลี้ยงเด็กเล็ก) 3.โรงพยาบาล 4.โรงแรม/รีสอร์ท 5.โรงงาน/กลุ่มอุตสาหกรรม และ 6.โรงธรรม (วัด/มัสยิด/โบสถ์) โดยขอให้ประชาชนยึดหลัก 3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค ได้แก่ 1.เก็บบ้านให้สะอาด ไม่รกทึบจนเป็นที่เกาะพักของยุงลาย 2.เก็บขยะ เศษภาชนะที่อาจมีน้ำขังไม่ให้กลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย และ 3.เก็บภาชนะใส่น้ำปิดฝาให้มิดชิด ป้องกันไม่ให้ยุงลายลงไปวางไข่ เพื่อป้องกัน 3 โรค ได้แก่ โรคไข้เลือดออก โรคติดเชื้อไวรัสซิกา และโรคไข้ปวดข้อยุงลาย หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 จังหวัดราชบุรี เบอร์ติดต่อ 032310804 หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422


 เกรียงไกร ก่อเกียรติตระกูล บรรณาธิการข่าว 
เรวัติ น้อยวิจิตร Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com 081-9107445

วช.สานพลังวิจัยและนวัตกรรมพัฒนาพื้นที่



            สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ หรือ วช. ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เดินหน้าพัฒนาประเทศอย่างองค์รวม ด้วยงานวิจัยและนวัตกรรม ที่ตอบโจทย์การแก้ปัญหาในพื้นที่ของประเทศ ภายใต้กิจกรรม "CEO FORUM : สานพลังวิจัยและนวัตกรรมเพื่อพัฒนาพื้นที่”
 




            พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลัง เป็นประธานเปิดกิจกรรมดังกล่าว ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อวันที่ 28 กันยายน ที่ผ่านมาว่า นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับ การขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ด้วยการพัฒนาฐานรากของประเทศไทย โดยอาศัยงานวิจัยและนวัตกรรม โดยเฉพาะ การดูแลชุมชนในพื้นที่ต่างจังหวัด เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ ทั้งด้านสุขภาพ  อาชีพและคุณภาพชีวิต ซึ่งกลไกสำคัญ จะต้องอาศัยบุคลากรและหน่วยงานในพื้นที่ และนำทรัพยากรเข้าไปพัฒนา นั่นก็คือ งานวิจัยและนวัตกรรม ซึ่งกิจกรรม "CEO FORUM : สานพลังวิจัยและนวัตกรรมเพื่อพัฒนาพื้นที่” มุ่งหวังให้บุคลากร หน่วยงานที่มีในพื้นที่ ทั้งมหาวิทยาลัย สถาบันการศึกษา ซึ่งทำหน้าที่ดูแลตามภารกิจอยู่แล้ว ให้เพิ่มเติมการดูแลปัญหาและความต้องการของประชาชนในพื้นที่ เพื่อนำองค์ความรู้งานวิจัย และนวัตกรรม ไปช่วยพัฒนาและแก้ไขให้ตรงความต้องการ เกิดเป็นผลผลิตและเกิดคุณค่าเพิ่มขึ้น โดยหน่วยงานส่วนกลางไม่ว่าด้านการศึกษา ด้านการวิจัย ด้านการขับเคลื่อน ก็จะสนับสนุนนโยบายและทรัพยากร รวมถึงงบประมาณที่เป็นงานตามภารกิจปกติไปช่วยเสริม ก็จะเกิดการประสาน เชื่อมโยง และเป็นกลไก ในการแก้ปัญหาในพื้นที่นั้นๆ
   

 


             พลอากาศเอกประจินฯ มั่นใจว่า เมื่อชุมชนในพื้นที่ได้รับการดูแลแก้ไข สิ่งที่ตามมาคือเกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ มีรายได้และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น นอกจากนี้ การพัฒนาเรื่องอื่นๆ โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งถนน ไฟฟ้า ประปา ตลอดจนเทคโนโลยีด้านการสื่อสาร จะสร้างความเท่าเทียมและลดความเหลื่อมล้ำ ซึ่งกลไกต่าง ๆ เหล่านี้ คนในพื้นที่ต้องบูรณาการและขับเคลื่อน เพื่อให้ชาวบ้านได้รับการดูแลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยมีเครือข่าย สกอ.9 แห่งทั่วประเทศ คอยดูแล ดังนั้น ครูอาจารย์ของสถาบันการศึกษาในพื้นที่ ซึ่งทราบปัญหาของชาวบ้านจะเป็นผู้ประสานและบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น มหาดไทย เกษตร สาธารณสุข วช.  สกว.มาร่วมกันนำปัญหานั้นไปสู่การแก้ไขต่อไป
   




              ด้านศาสตราจารย์ นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า เพื่อให้การพัฒนาเชิงพื้นที่สามารถนำศักยภาพของจังหวัดและกลุ่มจังหวัดมาสนับสนุนการดำเนินการได้อย่างเต็มที่ วช.ในฐานะสำนักงานเลขานุการร่วมของสภานโยบายและนวัตกรรมแห่งชาติ จึงได้จัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้นเพื่อร่วมเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาพื้นที่ โดยส่งเสริมให้มีการนำผลงานวิจัย และนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยรวมของประเทศ และต่อยอดขยายผลองค์ความรู้ด้านการวิจัยและนวัตกรรมไปสู่การพัฒนาพื้นที่ที่สามารถตอบโจทย์ปัญหาความต้องการของพื้นที่ได้อย่างแท้จริง





จำนงค์ ศรัณยพิพัฒน์  ผู้สื่อข่าวอาวุโส
เรวัติ  น้อยวิจิตร  Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com  081-9107445

หนุ่มขับ จยย. คลาสสิกกลับจากงานถูกกระบะเสยดับคาที่!!



             30 กันยายน 61 เวลา 00.30 น. ร.ต.อ. จิรศักดิ์ ดวงใจดี รอง สว. สอบสวน สภ.ศรีประจันต์  จ.สุพรรณบุรี ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์ชนกับรถจักยานยนต์ บนถนนสาย ศรีประจันต์ - ดอนเจดีย์ บริเวณพื้นที่ ม.5 ต.บางงาม หลังได้รับแจ้งจึงรีบรุดไปตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุพร้อมด้วยแพทย์จาก รพ.ศรีประจันต์ และเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิเสมอกันกู้ภัย เขตศรีประจันต์






             ที่เกิดเหตุพบ รถยนต์(กระบะ) ยี่ห้อเชฟโรเลต สีขาวหมายเลขทะเบียน ตน146 กทม.พลิกตะแคงอยู่ริมถนนนอกจากนี้ยังพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่าSR 400สีดำไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมีร่องรอยถูกชนจนพังยับ จากการตรวจสอบพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย1ราย ทราบชื่อต่อมาคือ นายกิตติธัช ล้อมวงษ์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่198 ม.2 ต.บ้านกร่าง อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี สภาพศพสวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีน้ำเงิน กางเกงยีนส์ สภาพแขนขาหักนอนคว่ำหน้าเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่ริมถนน  นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก1ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลศรีประจันต์ไปก่อนหน้านี้ ทราบชื่อผู้บาดเจ็บต่อมาคือ นายธีรวุฒิ ศรีเมือง อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่51/1 ม.1 ต.หนองหญ้าไซ อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี(คนขับรถยนต์)





               จากการสอบสวน นายธีรวุฒิ ผู้ได้รับบาดเจ็บให้การว่าตนนั้นเป็นลูกจ้างบริษัทขายส่งไก่สดแห่งหนึ่งใน อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี ก่อนเกิดเหตุตนกำลังกลับจากส่งไก่สดในพื้นที่ จ.สิงบุรีและกำลังมุ่งหน้ากลับที่พักที่ อ.ดอนเจดีย์ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุก็รู้ศึกวูบแล้วรถก็ได้เสียหลักข้ามเลนไปชนกับรถจักรยานยนต์ของผู้ตายที่กำลังกลับจากงาน Hyperbike_Srdanchang ซึ่งเป็นงานรถคลาสสิค ที่จัดขึ้นในพื้นที่ เขื่อนกระเสียว อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ขี่รถจักรยานยนต์มาพร้อมกับกลุ่มเพื่อนที่ขี่รถคลาสสิคด้วยกัน เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุก็ได้มีรถยนต์กระบะเสียหลักพุ่งข้ามเลนมาพุ่งชนเข้าอย่างจังจนเป็นเหตุให้เสียชีวิตดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้คุมตัวโชเฟอร์รถยนต์ไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป




 

        ภาพ/ มูลนิธิเสมอกัน  กู้ภัยศรีประจันต์   ทีมข่าว Thailive news รายงาน
เรวัติ น้อยวิจิตร Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com 081-9107445

วันเสาร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2561

นสพ.บีทีเคนิวส์ แนะนำ ตลาดน้ำวงษ์ทอง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี



             คอลัมน์บีทีเคนิวส์  คนธรรมดา พาเที่ยว เชิญ  “ ชม ช้อป ชิม ” อาหารดี กาแฟอร่อย ชมสินค้าราคาถูก บรรยากาศ ตลาดโรงเกลือ สระน้ำ สวนสนุก กิจกรรมทางน้ำนั่งเรือห่าน ให้อาหารปลา  นั่งรถราง ชมสวนดอกไม้ แนบชิดกับธรรมชาติ  มีที่จอดรถกว้างขวาง ณ.ตลาดน้ำวงษ์ทอง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี





              วันนี้ คนธรรมดา ม้าตัวเดียว ได้เดินทางออกจากสระบุรีตามเส้นทาง พหลโยธิน ทิศเหนือมุ่งหน้าตามเส้นทางไปจังหวัดลพบุรี  เพียง10 กิโลเมตร พบทางด้านขวามือมีตลาดหน้าสนใจ ไปกลับรถมา แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว แห่งใหม่ของชาวสระบุรี ชมสถานที่ไปเที่ยวจับจ่ายซื้อของในแนว ตลาดโรงเกลือ ตลาดน้ำ พร้อม สวนน้ำสำหรับเด็กๆได้ลงเล่นฟรี   มีอาหารให้เลือกหลายหลาย ภายในมีรถรางสำหรับเด็กๆและผู้ปกครอง ท่องเที่ยว เชิงเกษตรในบรรยากาศร่มรื่น  ตื่นตากับพันธ์ดอกไม้นาๆชนิด มีมุมกาแฟอร่อย คันทรีแนวคาวบอย แถมมีดนตรีคาราโอเกะ ให้นักท่องเที่ยว  ได้ ร้องแบบฟรีๆ ระหว่างรอลูกๆเล่นน้ำกันอย่างเพิดเพลิน








      รถรางวิ่งรอบชมสวนไม้ดอกในเนื้อที่ 10 ไร่  ตลาดน้ำวงษ์ทอง เปิดบริการทุกวัน  โดยเฉพาะเสาร์ อาทิตย์  เด็กๆมาว่ายน้ำที่สระ และลงเล่นเรือหงส์ ให้อาหารปลานับหมื่นตัว  เดินเล่นบนสะพานตาข่ายเหล็กแบบ สกายวอลค์  สนุกสนาน นั่งรถไฟชมสวนดอกไม้ เพียง 20 บาท ต่อคน เท่านั้น ไม่เบื่อไม่ต้องลง






 


              โดยการบริหารงานของ แดง   ผ้าใบ    มอบตอบแทนให้และเอาใจชาวสระบุรี ให้มีที่เที่ยวแบบสบายใจ สร้างรอยยิ้มให้กับนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวจังหวัดสระบุรีมากยิ่งขึ้น  สำหรับ พ่อค้า แม่ค้า สนใจสร้างรายได้ ให้ค้าขายฟรี ติดต่อที่สำนักงานบริเวณตลาดได้เลย ครับ










(คนธรรมดา  ม้าตัวเดียว)
]เรวัติ น้อยวิจิตร Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com 081-9107445

สุพรรณบุรี ประชุมเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด



            เมื่อวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๖๑ เวลา ๑๓.๓๐ น. กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสุพรรณบุรี โดย พันเอก เสน่ห์   บำรุงกิจ  รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสุพรรณบุรี (ฝ่ายทหาร)  มอบหมายให้  นายโสภณ รังษีบุตร รอง หัวหน้าฝ่ายนโยบายและแผน เข้าร่วมประชุม คณะกรรมการ ศูนย์อำนวยการเเละป้องกันยาเสพติดเเห่งชาติจังหวัดสุพรรณบุรี และคณะกรรมการรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยจังหวัดสุพรรณบุรี ณ ห้องประชุมขุนแผน ชั้น ๔ ศาลากลางจังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีนายพิภพ บุญธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นประธาน  ประชุมเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดให้เป็นไปอย่างมีประสิธิภาพ











อำนวย  เดชทองคำ  ศูนย์ข่าวท้องถิ่นออนไลน์  รายงาน
เรวัติ  น้อยวิจิตร  Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com  081-9107445