หน้าเว็บ

วันพุธที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557

มุกดาหาร ชาวบ้านบากพร้อมใจ ทูลเกล้าถวายข้าวฯ ๙๐๐๐ กิโลกรัม



             นายผล ผิวเหลือง  ผู้ประสานงาน กลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย เขตงาน ๔๔๔  ในนามตัวแทนชาวบ้านบาก  ต.บ้านบาก ต.ป่าไร่ ต.นาสะเม็ง ต.เหล่าหมี  อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร  ชาว อ.เลิงนกทา อ. กุดชุม  อ.ทรายมูล อ.ไทยเจริญ จ.ยโสธร  ชาว อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ  ร่วมทูลเกล้าถวายข้าว จำนวน ๙๐๐๐  กิโลกรัม



               ตามที่  คุณหญิงอารยา   พิบูลนครินทร์  ราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  แจ้งผ่านสมุหราชองครักษ์ ถึงหมายกำหนดการ ที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จฯ ไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ในพื้นที่  จังหวัดอุบลราชธานี  จังหวัดอำนาจเจริญ  และ จังหวัดยโสธร โดยการเสด็จพระราชดำเนินในครั้งนี้ จะทรงเสด็จไปโรงเรียนตำรวจตระเวณชายแดน บ้านห้วยฆ้อง  อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ  ตามรายละเอียด แจ้งแล้วนั้น





                  นายผล ผิวเหลือง  ผู้ประสานงาน กลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย เขตงาน ๔๔๔  ในนามตัวแทนชาวบ้านบาก  ต.บ้านบาก ต.ป่าไร่ ต.นาสะเม็ง ต.เหล่าหมี  อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร  ชาว อ.เลิงนกทา อ. กุดชุม  อ.ทรายมูล อ.ไทยเจริญ จ.ยโสธร  ชาว อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ  จึงได้ประสานงาน นำส่งข้าว จำนวน ๙๐๐๐  กิโลกรัม  ไปยังโรงเรียนตำรวจตระเวณชายแดน บ้านห้วยฆ้อง  อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ   ในโครงการพระราชดำริ  เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายข้าว เป็นพระราชกุศล เนื่องในวโรกาสวันพระราชสมภพ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๗  ผ่านสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และ อีกส่วนจะรอทูลเกล้าถวาย ที่ โรงพยาบาลศิริราช  กรุงเทพฯ












               

                  โดยในการขนข้าวพระราชทานจากฝายบ้านบาก ตามรอยพ่อ ต.บ้านบาก อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร  ไปยังโรงเรียนตำรวจตระเวณชายแดน บ้านห้วยฆ้อง  อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ  ในครั้งนี้ ได้รับความกรุณา จาก หน่วยพัฒนาเคลื่อนที่ ๒๔  นำโดย  พันโทวิสุทธิ์ เสริมศรี หน.ชุด ฯ อนุเคราะห์ นำรถ มาขนข้าวเพื่อเก็บรักษา ณ โรงเรียนตำรวจตระเวณชายแดน บ้านห้วยฆ้อง เพื่อรอทูลเกล้าถวายในโอกาส ต่อไป โดยในวันนี้มีขบวนรถของชาวบ้านมาร่วมดฃช่วยขนข้าว จำนวน  ๒๙ คัน



         
    


Cadit :  ดร.ศิริกัญญา บุญประเสริฐ  //  นายอำนวย  เดชทองคำ   ภาพ / ข่าว
เรวัติ  น้อยวิจิตร  สุพรรณบุรีนิวส์  rewat.noyvijit@hotmail.com  08-1910-7445

สุพรรณบุรี ไฟไหม้รถแด๊นเซอร์ดังเมืองขุนแผนหวิดย่างสดหมู่



             เมื่อเวลา  14.00 น.  วันที่ 31 ธ.ค.  ร.ต.ท.ประภาส  ขัติยะ  พงส.สภ.ศรีประจันต์  จ.สุพรรณบุรี  รับแจ้งเหตุไฟไหม้รถยนต์บริเวณหน้าร้านหอมนิยมแอร์  ริมถนนสุพรรณบุรี – ชัยนาท  หมู่ที่ 3 ต.ศรีประจันต์  ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.ไพฑูรย์  อยู่พะเนียด ผกก .รถดับเพลิงเทศบาล ต.ศรีประจันต์  เจ้าหน้าที่มูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี  ที่เกิดเหตุพบเพลิงกำลังโหมลุกไหม้รถตู้ยี่ห้อโตโยต้า  สีฟ้า ทะเบียน นข 3241  สุพรรณบุรี  เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 20  นาที จึงเพลิงจึงสงบท่ามกลางชาวบ้านที่ยืนมุงดูเหตุการณ์ด้วยความตกใจเป็นจำนวนมาก ส่วนรถตู้คันเกิดเหตุได้รับความเสียหายหมดทั้งคัน ท่ามกลางความโกลาหลสร้างความตกใจให้ทีมงานในคณะแดนเซอร์จนทำให้เป็นลมหมดสติกันไป 3 คน




              สอบสวนนายเสน่ห์  แก้วเขียว  อายุ 56 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 559 หมู่ที่ 3 ต.ศรีประจันต์  อ.ศรีประจันต์  จ.สุพรรณบุรี  เจ้าของรถตู้คันเกิดเหตุให้การว่า  ตนเป็นเจ้าของคณะแดนเซอร์วงปุ๋ยปาล์มมี่  รับงานแสดงทั่วประเทศ ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถตู้คันดังกล่าวพาทีมแดนเซอร์จำนวน 8 คน เดินทางไปทำการแสดงในงานอุปสมบทที่ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี   ระหว่างที่กำลังเดินทาง เครื่องเล่น DVD ในรถเกิดขัดข้องจึงแวะที่ร้านดังกล่าวเพื่อทำการตรวจซ่อม ระหว่างที่ทำการซ่อมเครื่องเล่นก็ให้ทีมงานทั้งหมดไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหารตามสั่งใกล้ๆกับอู่





               ระหว่างที่ช่างกำลังทำการตรวจซ่อมถอดเปลี่ยนฟิวส์เครื่องเสียงก็เกิดประกายไฟลุกไหม้บริเวณห้องโดยสารด้านข้างฝั่งขวามือ   จึงได้หยิบสิ่งของบางส่วนที่สามารถหยิบออกมาได้  ก่อนที่ไฟจะโหมหนัก จากนั้นไฟก็ลุกไหม้ลุกลามตัวรถอย่างรวดเร็ว  ตนจึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและเจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยดับ แต่ทั้งรถและชุดแด๊นเซอร์ก็ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งคัน มูลค่าความเสียหายประมาณ 500,000 บาทส่วนสาเหตุคาดว่าขณะที่ช่างกำลังซ่อมถอดเปลี่ยนฟิวส์อยู่นั้นได้เกิดการสป๊าร์คของสายไฟภายในรถแล้วลุกลามอย่างรวดเร็วจนเกิดความเสียหายดังกล่าวโชคดีที่ไม่มีใครได้บาดเจ็บแต่อย่างใด


         


 ศูนย์ข่าวสุพรรณบุรี

สุพรรณบุรี วัดดังแจกผ้ายันต์นักท่องเที่ยวช่วง 7 วันอันตราย




              ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพระครูพิพัฒน์สุวรรณาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดหนองเพียร ต.บางงาม อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี รองเจ้าคณะอำเภอศรีประจันต์  ได้แจกวัตถุมงคลคือผ้ายันต์วิทยุ ให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมากราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดหนองเพียร รวมทั้งผู้ที่จะเดินทางไปสถานที่ต่างๆ เพื่อเป็นขวัญกำลังแก่ญาติโยมให้เดินทางแคล้วคลาดปลอดภัย โดยทางวัดจะแจกให้ตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค.เป็นต้นไป



                  โดยพระครูพิพัฒน์สุวรรณาภรณ์  กล่าว ว่าในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ขอให้ญาติโยมที่เดินทางกลับบ้านเกิดหรือเดินทางไป ทำบุญ หรือไปเที่ยวพักผ่อนตามสถานที่ต่างๆ ก็ขอให้บารมีหลวงพ่อดำ หลวงพ่อขาว ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์ประจำวัดหนองเพียร ให้เดินทางโดยปลอดภัย ปราศจากอุบัติเหตุโชคดีมีโชคมีลาภ สำหรับผู้ที่ขับขี่นั้นก็ขอให้มีสติ และขอให้บารมีหลวงพ่อดำหลวง พ่อขาว จงคุ้มครองให้ปลอดภัยและเดินทางไปเที่ยวและกลับภูมิลำเนาโดยสวัสดิภาพ อย่างไรก็ตามในช่วงเทศกาลปีใหม่ ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวมากราบไหว้ขอพรหลวงพ่อดำเพื่อเป็นศิริมงคลแก่ชีวิต ซึ่งคาดว่าในช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาจำนวนมากทาง วัดจึงได้จัดเตรียมอาหารที่โรงทานของวัด ไว้บริการฟรีอย่างเพียงพอขอ



                   นอกจากนี้ทางวัดขอเชิญญาติโยม ร่วมสวดมนต์ข้ามปี สร้างบารมี ชีวีมีสุข รับปีใหม่ วันที่ 31 ธันวาคม 2557 - 1 มกราคม 2558 เวลา 22.00 เป็นต้นไปเช้ารุ่งขึ้นทำบุญปีใหม่ เจริญพระพุทธมนต์ สะเดาะเคราะห์ต่อชะตา โดยหลวงพ่อชัย และขอเชิญสั่งจอง เหรียญหลวงพ่อดำ วัดหนองเพียร รุ่นสร้างพระสังกัจจายน์ เพื่อสมทบทุนสร้างวิหารหลวงพ่อขาวได้ที่ตู้วัตถุมงคลในวิหารหลวงพ่อดำ


          

 เกรียงไกร  ก่อเกียรติตระกูล   บรรณาธิการข่าวท้องถิ่น อู่ทองนิวส์

วันอังคารที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2557

สุพรรณบุรี รวบยกแก๊ง ผจก.สาวร้านสะดวกซื้อ ยักยอกเงิน กว่าครึ่งล้าน




          สุพรรณบุรี รวบ ผจก.สาวร้านสะดวกซื้อพร้อมพวกยักยอกเงินร้านกว่าครึ่งล้านพร้อมวางแผนชิงเงินกว่าแสนบาท




            จากเหตุการณ์เหตุคนร้ายเป็นชาย 2 คนใช้ รถ จยย.  ยี่ฮอนด้า รุ่น MSX  สีแดงเป็นยานพาหนะร่วมกันก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์พนักงานร้าน เซนเว่นอีเลฟเว่น ได้กระเป๋าสะพายภายในมีเงินสดจำนวน 190,000 บาท ขณะกำลังนำเงินไปฝากเข้าบัญชีเหตุเกิดหน้าธนาคารธนชาติ สาขาอู่ทอง กลางตลาดอู่ทอง แล้วหลบหนีเหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.เวลา 14.30 น.




             ความคืบหน้าเมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 30 ธ.ค. พ.ต.ท.บัญชา พาหุพันธุ์  สว.สส.สภ.อู่ทอง พ.ต.ท.ทรงพล ศรีชมพู  พงส.นำกำลังฝ่ายสืบสวน ได้นำตัว น.ส.อำไพ  เพ็งสมบูรณ์  อายุ 31 ปีและ พนักงานร้านสะดวกซื้อผู้เสียหายที่ถูกก่อเหตุ ไปสอบสวนที่โรงพักจากการสอบสวน น.ส.อำไพ  ให้การวกวนมีพิรุธ และจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบก่อนเกิดเหตุ คนร้ายและผู้เสียหาย มีลักษณะเหมือนมีการนัดหมายกันไว้ล่วงหน้า   จึงได้สอบเค้น น.ส.อำไพ  เพ็งสมบูรณ์  ผู้เสียหายสุดท้ายเปิดปากรับสารภาพว่าก่อนเกิดเหตุ ได้ร่วมกับ น.ส.มลฤดี สุขมาก อายุ 28 ปี (ผจก.) นายอภิชาต  สุขสมวงศ์  อายุ 30 ปีและ น.ส.เอ นามสมมุตติ (อดีต พนักงานร้าน 7-11) วางแผนโดยนายอภิชาติ พร้อมเพื่อนเป็นคนลงมือ ก่อเหตุวิ่งราวกระเป๋าบรรจุเงินสด 190,000 บาทจากตนขณะนำเงินสดไปฝากธนาคาร หลบหนี



             น.ส.อำไพ ให้การอีกว่าก่อนหน้านี้ตนพร้อม น.ส.มลฤดี และน.ส.เอ  ได้ร่วมกันยักยอกเงินสดจำนวน 6 แสนบาทเศษ ของทางร้านสะดวกซื้อ ไปแบ่งกันใช้เนื่องจากไม่พอใจเจ้าของร้าน และไม่สามารถหาเงินมาคืนให้กับทางร้านได้ จึงได้ร่วมกันวางแผน โดยให้นายอภิชาต  จัดหายานพาหนะและผู้ที่จะลงมือก่อเหตุ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจับกุม น.ส.มลฤดี  ได้ที่บ้านพร้อมของกลางเงินสด 15,000 บาทสร้อยคอทองคำ 1 เส้นสร้อยทองคำข้อมือ 1 เส้นแหวนทองคำ 3 วงตรวจค้นภายในบ้าน น.ส.อำไพ  พบของกลางเงินสด 111,000 บาทแหวนทอง 1 วงจึงยึดไว้เป็นหลักฐาน พร้อมควบคุมตัวส่งดำเนินคดีพร้อมสืบสวนหาตัวผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป        



ศูนย์ข่าวสุพรรณบุรี

สุพรรณบุรี พ่วง 18 ล้อซิ่งแซงหกล้อไม่พ้นเสยตกคลองหวิดดับ




              เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 30 ธ.ค. ร.ต.ท.ไพบูลย์  เนียมทอง พงส.สภ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี รับแจ้งเหตุรถพ่วงชนหกล้อมีคนเจ็บติดภายในที่ถนนสายชัยนาท-สุพรรณบุรี  หมู่ 6 ต.วังน้ำซับ  ไปตรวจสอบพร้อมแพทย์ รพ.ศรีประจันต์ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี พบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุสีขาวทะเบียนตัวแม่ 83-0463 นครสวรรค์  ตัวลูก 83-0464 นครสวรรค์   บรรทุกเม็ดข้าวโพดเต็มคันพลิกตะแคงอยู่ในคลองส่งน้ำข้างทางเม็ดข้าวโพดกระจายเกลื่อนหน้ารถพังยุบภายในรถพบร่างนายวีระพงศ์  รอดนิล อายุ 23 ปีอยู่บ้านเลขที่ 82/1 หมู่ 12 ต.เนินมะกอก อ.พยุหคีรี จ.นครสวรรค์ ถูกอัดก๊อปปี้คาอยู่เจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องมือตัดถ่างช่วยนำออกมาที่ขาซ้ายมีแผลฉีกขาด ในคลองส่งน้ำใกล้กัน มีรถบรรทุกหกล้อยี่ห้ออีซูซุสีฟ้า ทะเบียน 80-8239 ชัยนาท บรรทุกไม้ยูคาลิปตัสเต็มคันตะแคงอยู่มีร่างนายเชาว์  คำสัตย์ อายุ 50 ปีอยู่บ้านเลขที่ 150/1 หมู่ 11 ต.เนินขาม อ.เนินขาม จ.ชัยนาท ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยถูกอัดติดอยู่ จึงรีบช่วยออกมาแล้วนำทั้งคู่ส่ง รพ.ศรีประจันต์



                 จากการสอบสวนนายวีระพงศ์  รอดนิล คนขับรถพ่วงให้การว่าก่อนเกิดเหตุได้ขับรถพ่วงบรรทุกเม็ดข้าวโพดเต็มคันมาจาก จ.นครสวรรค์ จะส่งลูกค้ามาตามถนนสายดังกล่าวโดยขับตามหลังรถบรรทุกหกล้อมาด้วยความเร็วถึงที่เกิดเหตุตนได้เร่งเครื่องแซงแต่ไม่พ้นจึงพุ่งชนท้ายอย่างแรงทำให้รถเสียหลักตกไปในคลองส่งน้ำข้างทางทั้งคู่โชคดีที่ในคลองไม่มีน้ำจึงได้รับเจ็บเล็กน้อย อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนอย่างละเอียดเพื่อดำเนินคดีต่อไป




ศูนย์ข่าวสุพรรณบุรี

วันจันทร์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2557

สุพรรณบุรี ล่าโจรเหิมชิงเงินพนักงานร้านสะดวกซื้อกว่าครึ่งล้านกลางตลาดอู่ทอง



            เมื่อเวลา  15.00 น. วันที่ 29  ธ.ค. ร.ต.ท.วีรชัย  ร้อยศรี   พงส.สภ.อู่ทอง  จ.สุพรรณบุรี  รับแจ้งเหตุชิงทรัพย์ที่บริเวณหน้าธนาคารธนชาติ สาขาอู่ทอง  หมู่ 6 ต.อู่ทอง  ไปตรวจพร้อม  พ.ต.อ.สุรพจน์  พิสุทธิวงส์ ผกก. พ.ต.ท.ทรงพล ศรีชมพู  พงส.ชำนาญการพิเศษ สภ.อู่ทอง  พร้อมกำลังเจ้าหน้าฝ่ายสืบสวนและเจ้าหน้าที่ตำรวจสาย ที่เกิดเหตุพบ น.ส.อำไพ  เพ็งสมบูรณ์  อายุ  31 ปี และ น.ส.วราภรณ์  แก้วประเสริฐ  อายุ  24  ปี  พนักงานร้านสะดวกซื้อสาขาตลาดอู่ทอง  ยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจในอาการตัวสั่นสีหน้าตกใจสุดขีด ในมือของ น.ส.วราภรณ์  แก้วประเสริฐ ถือกระเป๋าหิ้วภายในบรรจุเงินสดจำนวนกว่า 6 แสนบาทที่เตรียมจะนำมาฝากที่ธนาคารธนชาติ ซึ่งรอดจากการถูกคนร้ายชิงไปได้






            จากการสอบสวน น.ส.อำไพ เพ็งสมบูรณ์  ให้การว่า ตนเองและ น.ส.วราภรณ์ แก้วประเสริฐ  เป็นพนักงานประจำร้านสะดวกซื้อสาขาตลาดอู่ทองห่างจากธนาคารที่จะนำเงินมาฝากประมาณ 30 เมตร   ก่อนเกิดเหตุตนและเพื่อนนำเงินที่ได้จากการจำหน่ายสินค้าในร้านแบ่งใส่กระเป๋าสะพายสีดำจำนวน 2  ใบ  โดยถือกันมากับเพื่อนคนละ 1 ใบ  เพื่อนำเงินไปฝากที่ ธนาคารธนชาต สาขาอู่ทองซึ่งทำเป็นประจำทุกวัน






           วันนี้ขณะที่ตนและเพื่อนกำลังนำเงินสดจากร้านไปฝากธนาคารตามปกติก่อนจะถึงประตูธนาคารประมาณ 3 เมตร  ทันใดนั้นมีคนร้ายเป็นชายลักษณะสูงใหญ่ สวมเสื้อยืดแขนยาวสีดำ  กางเกงยืน และใช้เสื้อยืดสีดำพันปกปิดใบหน้าวิ่งมากจากทางด้านหลังของตนและกระชากกระเป๋าเงินที่ตนเองถืออยู่และวิ่งไปขึ้นรถจักรยานยนต์วิบากขนาดเล็กไม่ทราบสียี่ห้อและทะเบียนที่มีคนร้ายอีกหนึ่งคนสวมเสื้อผ้ามิดชิดใส่หมวกกันน็อคสีดำติดเครื่องรออยู่ขับหลบหนีมุ่งหน้าไปทางถนนมาลัยแมน







          พ.ต.ท.ทรงพล ศรีชมพู  กล่าวว่าจากการสอบสวนพยานแวดล้อมทราบว่าคนร้ายยืนทำทีเหมือนกำลังยืนรออะไรสักอย่างบริเวณหน้าร้านขายเสื้อผ้าใกล้จุดเกิดเหตุเมื่อเห็นผู้เสียหายเดินผ่านมาก็รีบวิ่งไปกระชากกระเป๋าที่บรรจุเงินสดไว้แล้ววิ่งหนีไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายอีกคนติดเครื่องรออยู่ก่อนหลบหนีไปอย่างรวดเร็วหลังเกิดเหตุได้วิทยุสกัดจับแต่ยังไร้วี่แวว





           ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งดำเนินการหาภาพจากกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆที่คาดว่าคนร้ายจะใช้เป็นเส้นทางหลบหนี  คาดว่าคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้น่าจะรู้ความเคลื่อนไหวของพนักงานของร้านสะดวกซื้อพอสมควร จึงมายืนดักรอเหยื่ออย่างใจเย็นเมื่อสบโอกาสจึงลงมือโดยใช้เวลาก่อเหตุไม่ถึง 1 นาทีอย่างไรก็ตามได้นำตัวผู้เสียหายไปสอบปากคำบันทึกไว้เป็นหลักฐานเพื่อเป็นแนวทางในการสืบหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป  เพราะถือว่าคนร้ายกระทำการอุกอาจมากเนื่องจากจุดที่ก่อเหตุเป็นเขตชุมชนที่มีผู้คนพลุกพล่าน





      เกรียงไกร  ก่อเกียรติตระกูล  บรรณาธิการข่าวท้องถิ่น อู่ทองนิวส์

สระบุรี จัดงานเทศกาล วิถีไทยวน ถนนสายวัฒนธรรม ประจำปี 58



             วัฒนธรรมจังหวัดสระบุรี จัดงานคืนความสุขให้ชาวไทย สวัสดีปีใหม่ 2558 ด้วย วิถีไท ยวน จังหวัดสระบุรี ตาม เส้นทาง ถนนสายวัฒนธรรม ณ ตลาด ต้าน้ำต้นตาล ตำบลต้นตาล อำเภอ เสาไห้ จังหวัดสระบุรี



             เมื่อ 28 ธ.ค. 57 นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์  รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีเป็นประธานเปิดงาน เทศกาล ถนนสายวัฒนธรรมเมืองสระบุรี ประจำปี 58  มีนาย บัญญัติ  แสวงดี วัฒนธรรมจังหวัดสระบุรีกล่าวรายงาน มีนาย ธนวัฒน์ คูวิจิตรสุวรรณ นายกสมาคมวัฒนธรรมจังหวัดสระบุรี นาย วิชัย สำเหนียกพันธ์ นายกเทศบาลตำบลต้นตาล-พระยาทด ร่วมงาน  



           ซึ่งในอดีต คนยวนเสาไห้ นั้นชาติพันธ์  มาจาก เมืองเชียงแสน โดยย้ายถิ่นฐานอพยพมากว่า 2,300 คนโดยแบ่งออกเป็น 5 ส่วนคือ ไปเมืองเวียงจันทร์ ไปเมืองเชียงใหม่ ไปเมืองลำปาง ไปเมืองน่าน ส่วนที่เหลือลงมาทางเมืองหลวง จะมีบางส่วนได้ตั้งบ้านเรือนแถบแม่น้ำป่าสัก ซึ่งปัจจุบันเป็นเมืองสระบุรีร่วมถึงต้นน้ำป่าสักถึงตอนใต้เช่นตำบลคูบัว อำเภอเมืองราชบุรี



            ในปัจจุบันไทยวนได้มีลูกหลานมากขึ้นจึงได้ขยายไปอยู่ตามพื้นที่ในสระบุรีมากหมายและยังคงอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีและดำเนินกิจกรรมให้รักษา อัตลักษณ์ พร้อมสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้แก่คนในชุมชนมีเยาวชนและประชาชนคนรุ่นหลังได้สืบสานประเพณีวัฒนธรรมและสร้างเครือข่ายสร้างจิตสำนึกให้คนรุ่นหลังให้มีจิตที่นำไปสืบสานต่อให้ยาวนานและสร้างสรรค์ชุมชนในมิติ เชิงการอนุรักษ์มรดกของชาติให้ยั่งยืนสืบไปนานเท่านาน.




(คนธรรมดา  ม้าตัวเดียว)