หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ผู้ว่าฯสระบุรีจัดชุดปฏิบัติการพิเศษ ร่วมตรวจโรงโม่หิน ตามคำสั่ง คสช.

ชุดปฏิบัติการพิเศษ ร่วม ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง กอ.รมน.สระบุรี ป่าไม้ 5 และเจ้าหน้าที่นิคมสร้างตนเองพระพุทธบาท บุกจู่โจม ตรวจโรงโม่หิน 8 โรงพร้อมกันจากจำนวน 44 โรง พบ สัมปทานบัตร หมดอายุ ทำนอกเขตอนุญาต ตรวจสอบการอนุมัติ ต่ออายุใช้พื้นที่ นิคมสร้างตนเองพระพุทธบาท ยึด อายัด หิน แร่หินปูน เครื่องขุดเจาะ รถแบ็คโฮ ดำเนินคดี
เมื่อ 30 มิ.ย.57 เวลา 08.30. น นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี พล.ต.ต.ชลิต ปรีชาหาญ ผบก.ภ.จว.สระบุรี พ.อ.รังสรรค์ ยิ้มสู้ รองผอ.กอ.รมน.สบ. นายผล ดำธรรม นายอำเภอพระพุทธบาทนายพรชัย หลิมตระกูล นายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ นำชุดปฏิบัติการพิเศษ ร่วม ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง กอ.รมน.สระบุรี สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 5 สระบุรี ตำรวจป่าไม้ กก.2 บก.ปทส.แบ่งกำลังออกเป็น 4 ชุด มี พ.ต.อ.วัฒนา วงศ์จันทร์ รองผบก.ภ.จว.สระบุรี พ.ต.อ.ภูบาล ทับจันทร์ รองผบก.ภ.จว.สระบุรีพ.ต.อ.เชิดชัย ศรศิลป์ รองผบก.ภ.จว.สระบุรี พ.ต.อ.บำรุง คงชีพ รองผบก.ภ.จว.สระบุรี เป็นหัวหน้าชุดบุกจู่โจมเข้าตรวจสอบโรงโม่หิน 8 แห่งพร้อมกันประกอบด้วย บริษัท ศิลาสากลสระบุรีจำกัด บุญชัยพาณิชย์ 1979จำกัด บมจ.ซีวิลเอนเจอร์เนอริ่ง จำกัด บริษัทศิลาเลิศจิตร บริษัทศิลาเลิศจิตร จำกัด หมู่ 5 ต.หน้าพระลาน บริษัทศิลาเลิศจิตรจำกัด หมู่5 ต.พุคำจาน อ.พระพุทธบาท บริษัท สหพงษ์นราพันธ์ จำกัด หมู่ 8 ต.เขาวง อ.พระพุทธบาท บริษัทรุ่งอรุณศิลป์ จำกัดหมู่ 6 ต.พุคำจาน และบริษัทนิยมชัย 1994 จำกัดหมู่ที่ 5 ต.พุคำ
โดยจุดแรก เข้าตรวจสอบ บริษัท ศิลาสากลสระบุรีจำกัด บุญชัยพาณิชย์ 1979 บมจ.ซีวิลเอนเจอร์เนอริ่ง จำกัด บริษัทในเครือ บริษัท ซีวิลเอนเจอร์เนอริ่ง จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 60 หมู่ 5 ต หน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ. สระบุรี สอบถามเบื้องต้นกับ นายโสภณ รอดชาติ ผู้ปกครองนิคมสร้างตนเองพระพุทธบาทและนาย มนตรี แฉล้มลักษม์ ผู้จัดการทั่วไป ดูแลกิจการ บริษัท ทั้ง 3 แห่ง ที่ได้รับอนุญาตใช้พื้นที่จากนิคมสร้างตนเองพระพุทธบาทและยังมีพื้นที่มีเอกสารสิทธิ์ เดิมมี เนื้อที่ กว่าหมื่นไร่ ต่อมามีการขายต่อเป็นทอดๆจนเหลือพื้นที่ครอบครองประมาณ 3 พันไร่ แต่ได้ดำเนินกิจการ จนหมดสัญญาการใช้พื้นที่ สัมปทานบัตร กว่า 3 พันไร่ จำนวน 3 แปลง ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.57 และได้ทำเรื่องขออนุญาตต่อสัญญาอีกจำนวน 3 แปลง แต่ได้รับอนุญาต เพียง 2 แปลง ในพื้นที่ 235 ไร่ โดยอยู่ในเขตนิคมฯ แปลงที่หนึ่ง จำนวน 40ไร่ ให้ดำเนินการระเบิดหินได้ 35 ไร่ แปลงที่ 2 ได้รับอนุญาต 90 ไร่ โดยได้รับการอนุมัติจาก นาง สมคิด สมศรีรองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.57 ที่ผ่านมา ผลการตรวจสอบพบบริษัทดังกล่าวได้ มีการกระทำผิดนอกเขตสัมปทานบัตรนอกเขตพื้นที่ได้รับอนุญาต และพบว่าได้มีการลักลอบขุดแร่หินเชล ส่วนผสมปูนซิเมนต์ ที่ไม่ได้ขอสัมปทานบัตร ออกไปเป็นจำนวนมาก จึงได้ตรวจยึดอุปกรณ์เครื่องมือ รถขุดเจาะจำนวน 3 คัน และรถตัก แบ็คโฮ จำนวน 1 คัน พร้อมตรวจยึดแร่ที่ได้กองไว้ในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
(คนธรรมดา ม้าตัวเดียว)

สมุทรสาคร เปิดศูนย์บริการ แรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ ( One Stop Service )

พลเอกศิริชัย ดิษฐกุล เลขาธิการทหารประธานคณะอนุกรรมการ ประสานงาน จัดการปัญหาแรงงานต่างด้าว เป็นประธานเปิดศูนย์บริการ แรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ ( One Stop Service ) เพื่อจดทะเบียนแรงงานต่างด้าว เมียนม่าร์ ลาว กัมพูชา ที่ผิดกฎหมาย ให้เป็นแรงงานถูกกฎหมายแรงงานต่างด้าว จะได้รับการดูแลอย่างเป็นธรรม ตามหลักสิทธิมนุษยชน เพื่อป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย การจ้างงานไม่เป็นธรรม การค้ามนุษย์ การลักลอบเข้าเมือง โดยผิดกฎหมาย ปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรม
ศูนย์บริการแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ ( One Stop Service ) ดำเนินการช่วงวันที่ ๓๐ มิถุนายน ถึง วันที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๕๗ สถานที่ ณ สำนักงานประกันสังคมแห่งใหม่ ตั้งอยู่ที่ ซอย เทศบาล ๘ ตำบลมหาชัย อ.มหาชัย จ.สมุทรสาคร ให้บริการช่วงเวลา ๐๘.๓๐ - ๑๖.๓๐ น. ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ในศูนย์บริการจัดทำ ทร.๓๘/๑ โดยที่ทำการปกครองจังหวัด ตรวจสุขภาพ ประกันสุขภาพ โดยหน่วยแพทย์ประจำจังหวัด การอนุญาตทำงานชั่วคราว ๖๐ วัน สำนักงานจัดหางานจังหวัด เน้น การบริการอย่างรวดเร็ว ลดขั้นตอน ประหยัด โปร่งใส ซึ่งจะเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าเดิมคือ ทร.๓๘/๑ อัตรา ๘๐ บาท ใบอนุญาตทำงานชั่วคราว ๖๐ วัน ไม่เกิน ๓ เดือน อัตรา ๒๒๕ บาท ตรวจสุขภาพ อัตรา ๕๐๐ บาท ประกันสุขภาพ อัตรา ๕๐๐ บาท รวม ๑,๓๐๕ บาท
สำหรับบุตร หรือ ผู้ติดตาม มีค่าใช้จ่าย ทร.๓๘/๑ อัตรา ๘๐ บาท ตรวจสุขภาพ อัตรา ๕๐๐ บาท ประกันสุขภาพ อัตรา ๕๐๐ บาท รวม ๑,๐๘๐ บาท เมื่อได้รับอนุญาตทำงานแล้ว ให้นายจ้างดำเนินการตรวจสัญชาติ ซึ่งทางราชการจะได้กำหนดแนวปฏิบัติ ต่อไป
ร้อยตำรวจโทอาทิตย์ บุญญะโสภัต ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เน้นการให้บริการ รวดเร็ว ลดขั้นตอน ประหยัด โปร่งใส ซึ่งในปี ๒๕๕๖ นายจ้าง / สถานประกอบการ แจ้งความต้องการ จ้างแรงงานต่างด้าว จำนวน ๒๗๐,๐๐๐ คน แรงงานสต่างด้าว เข้าระบบ การจ้างงานแล้ว จำนวน ๑๙๐,๐๐๐ คน ซึ่งจำนวนส่วนต่างนี้ ประมาณการว่า แรงงานต่างด้าวจะไปดำเนินการ จำนวน ๘๐,๐๐๐- ๑๐๐,๐๐๐ คน รวมทั้งผู้ติดตาม จึงขอแจ้งให้นายจ้าง / สถานประกอบการ พาแรงงานต่างด้าว ๓ สัญชาติ เมียนม่าร์ ลาว และ กัมพูชา ที่ยังไม่ได้จดทะเบียน และ ขออนุญาตทำงาน ไปดำเนินการตามกำหนด วัน เวลา สถานที่ ดังกล่าว หากพ้นกำหนดจะดำเนินการตรวจสอบ จับกุม นายจ้าง ดำเนินคดี ตามกฎหมาย และ ส่งแรงงานต่างด้าว กลับประเทศ
นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ดูแลประสานความเรียบร้อย แม่งาน **
นางสาวเรณุมาศ สละชีพ ประชาสัมพันธ์ จังหวัดสมุทรสาครคอยดูแลสื่อฯ **
นายสุวรรณ ดวงตา แรงงานจังหวัดสมุทรสาครดูแลทั้งงาน ** สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ โทรศัพท์ 0-3442-6758, 0-3481-0489
นายแพทย์โมลี วนิชสุวรรณ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาคร ส่งพยาบาลตรวจโรค ต่างด้าว ***
บาดเจ็บต้องรักษาโดยด่วนจาก พยาบาล โรงพยาบาลสมุทรสาคร ***
เร่งตรวจเลือดเพื่อตรวจโรค
ใด้รับบัตรต่างด้าวเรียบร้อยแล้วอยู่เมืองไทยพร้อมหานายจ้างทันที **
ลิขิต รักอยู่ สมุทรสาครนิวส์ 098-8416393 , 087-7651354 ข่าว ** / เรวัติ น้อยวิจิตร rewat.noyvijit@hotmail.com 081-9107445

สมุทรสาครเปิดขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าว 30 มิ.ย. วันแรก คึกคัก

ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร คาดแรงงานต่างด้าวเข้าทำงาน จ.สมุทรสาคร 1 แสนคน เปิดขึ้นทะเบียนแรงงานวันแรก 30 มิ.ย. 57 นี้
พ.ต.อ.จำแรง สุดใจ ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร เปิดเผย ว่า จากที่จังหวัดสมุทรสาครเป็นจังหวัดนำร่องการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวภายหลังแรงงานต่างด้าวกลับเข้ามาทำงานในประเทศไทย ส่วนแรงงานที่กลับเข้ามาทำงานในประเทศไทยนั้นมีส่วนน้อยที่กลับไปทำงานกับหัวหน้างานคนเก่า โดยแรงงานส่วนใหญ่เน้นหางานทำกับผู้ประกอบการรายใหม่ ล่าสุดสถานประกอบการต่าง ๆ เริ่มคึกคักขึ้นมาบ้างแล้ว โดยเฉพาะสถานประกอบการก่อสร้าง ส่วนโรงงานกุ้งนั้น ช่วงนี้กุ้งยังขาดตลาดเลยเปิดรับคนงานน้อยกว่าปกติ และคาดว่าจะมีแรงงานต่างด้าวเข้ามาในจังหวัดสมุทรสาคร กว่า 100,000 คน ทั้งนี้ได้แจ้งให้ผู้ประกอบการต่าง ๆ มาขึ้นทะเบียนขอจ้างแรงงานต่างด้าวแล้ว และจะเปิดให้ขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าววันแรกในวันที่ 30 มิ.ย. 2557 นี้
ลิขิต รักอยู่ สมุทรสาครนิวส์

สมุทรสาคร เปิดศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ

จังหวัดสมุทรสาครชี้แจงนายจ้างเรื่องการเปิดศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ วันที่ (27 มิถุนายน 2557) เวลา 10.00 น. ร้อยตำรวจโทอาทิตย์ บุญญะโสภัต ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานการประชุมชี้แจงการจัดตั้งศูนย์บริการแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ (ONE STOP SERVICE) พร้อมด้วยผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร ผู้บังคับการกรมทหารสื่อสารที่ 1 ค่ายกำแพงเพชรอัครโยธิน รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสมุทรสาครฝ่ายทหาร ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองสมุทรสาคร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ที่ตลาดทะเลไทย เพื่อประชาสัมพันธ์การจัดตั้งศูนย์ฯ อำนาจหน้าที่และการให้บริการต่างๆ สร้างความรู้ ความเข้าใจ ให้กับนายจ้างที่มีแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายในสถานประกอบการ ดำเนินการพาแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย 3 สัญชาติ ได้แก่ เมียนมาร์ ลาว และกัมพูชา มาขึ้นทะเบียนและขอใบอนุญาตทำงานให้ถูกต้อง มีนายจ้างเข้าร่วมประชุม จำนวน 1.241 ราย
ศูนย์บริการแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ (ONE STOP SERVICE) จะดำเนินการช่วงวันที่ 30 มิถุนายน – 30 กรกฎาคม 2557 สถานที่ ณ สำนักงานประกันสังคม (แห่งใหม่) ตั้งอยู่ที่ซอยเทศบาล 8 ตำบลมหาชัย อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ให้บริการตั้งแต่เวลา 8.30 – 16.30 น. ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ ให้บริการจัดทำ ทร.38/1 ออกใบอนุญาตทำงาน รับตรวจสุขภาพและรับประกันสุขภาพ การปฏิบัติงานเน้น รวดเร็ว ลดขั้นตอน ประหยัด โปร่งใส โดยนายจ้างสามารถนำแรงงานต่างด้าวดังกล่าวมาดำเนินการจดทะเบียนประวัติและขออนุญาตทำงาน ตำแหน่งกรรมกร และผู้รับใช้ในบ้านทุกประเภทกิจการ ซึ่งมีเงื่อนไขว่านายจ้างและแรงงานต่างด้าวต้องทำงานในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครและนายจ้างต้องมาดำเนินการด้วยตัวเองเท่านั้น
ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า ใบอนุญาตที่ออกให้นี้เป็นใบอนุญาตชั่วคราว อายุ 60 วัน โดยในช่วงเวลา 60 วันนี้นายจ้างต้องพาแรงงานต่างด้าวไปทำการพิสูจน์สัญชาติให้เสร็จแล้วนำมาขอใบอนุญาตทำงานให้ถูกต้องตามกฎหมาย และเรื่องการลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเพื่อเป็นแรงจูงใจให้นายจ้างพาแรงงานต่างด้าวมาดำเนินการให้ถูกต้อง โดยมีค่าบัตรประจำตัวแรงงานของปกครอง จำนวน 80 บาท ค่าใบอนุญาตทำงาน จำนวน 900 บาท (หากไม่เกิน 3 เดือน คิดในราคา 225 บาท / ไม่เกิน 6 เดือน คิดในราคา 450 บาท ) ค่าตรวจสุขภาพ จำนวน 500 บาท และค่าซื้อระบบประกันสุขภาพ จำนวน 1,600 บาท และในช่วงระยะเวลาการขึ้นทะเบียนทางตรวจจะไม่ตรวจ ไม่จับแรงงานต่างด้าวทั้งสิ้น เป็นการอำนวยความสะดวกในการดำเนินการของนายจ้าง เพื่อเป็นการนำแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมายเข้าสู่ระบบ หลังจากวันที่ 30 กรกฎาคม 2557 ทางจังหวัดจะดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดในการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว ทั้งเรื่องการดูแลสวัสดิการ จัดโซนที่อยู่อาศัย แก้ปัญหาการค้ามนุษย์ แรงงานเด็กต่อไป ผู้สื่อข่าว : วัยพัฒน์ ม่อมพะเนาว์ Rewriter : วรรณวิไล สนิทผล สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ : http://thainews.prd.go.th ลิขิต รักอยุ่ สมุทรสาครนิวส์

วันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2557

สระบุรี บูรณาการ จู่โจมตรวจค้นเรือนจำ ตามโครงการเรือนจำสีขาว

ทหาร ตำรวจ กอ.รมน.สบ. ฝ่ายปกครอง ปปส.ภาค 1 ร่วมจู่โจมตรวจค้นเรือนจำสระบุรีตามโครงการเรือนจำสีขาว ผลการสุ่มตรวจผู้ต้องขังไม่พบสารเสพติด 100 เปอร์เซ็นต์
เมื่อ28 มิ.ย.57 เวลา 05.00 น. พลตรีวิบูลย์พงศ์ อินทะพงษ์ ผบ.จทบ. พลตำรวจตรี ชลิต ปรีชาหาญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี พันเอกปราการ ปทะวานิช รองผบ.จทบ พ.อ.รังสรรค์ ยิ้มสู้ รองผอ.กอ.รมน.สบ. นายชรัส บุญณสะ ปลัดจังหวัดสระบุรี นายธนพล วัฒนเวช ป้องกันจังหวัดสระบุรีระดมกำลังเจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ กอ.รมน.สบ. ฝ่ายปกครอง ปปส.ภาค 1 กว่า 350 นาย เข้าตรวจค้นเรือนจำจังหวัดสระบุรี โดยมี นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีเป็นประธานปล่อยแถวพร้อมได้นำกำลังเข้าตรวจค้น มี นายสมศักดิ์ สาระหงส์ ผอ.เรือนจำจังหวัดสระบุรีให้การต้อนรับ ผลการตรวจค้น ผู้ต้องขัง 3,680 คน แบ่งเป็นชาย 3,680 คน หญิง547 คน ไม่พบยาเสพติด และ อุปกรณ์การเสพยา หรือ สิ่งของต้องห้าม เมื่อมีการสุ่มตรวจปัสสาวะ ผลการสุ่มตรวจผู้ต้องขังชาย261ราย ผู้ต้องขังหญิง 120 รายไม่พบสารเสพติดแต่อย่างใด
อนึ่งขณะเข้าตรวจค้นพบว่ามีผู้ต้องขังหญิงท้องแก่ใกล้คลอด 1 รายเกิดปวดท้องมาอย่างกระทันหัน เจ้าหน้าที่เรือนจำ จึงนำส่ง รพ.ศูนย์สระบุรี ในขณะเดียวกันพบว่ายังมีผู้ต้องขังหญิงอีก 1 รายที่ต้องโทษ คดีรับซื้อของโจรได้ คลอดบุตรชาย มาแล้วประมาณ 1 เดือนบุตรต้องอยู่ภายในเรือนจำด้วย เนื่องจากบิดาเด็กก็ถูกขังอยู่แดนชายภายในเรือนจำเช่นกัน ยังไม่มีญาติหรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวการสงเคราะห์หรือพิทักษ์สิทธิเด็กเข้าไปดูแลแต่ประการใด
(คนธรรมดา ม้าตัวเดียว)

สระบุรี บุกตรวจสอบการวัด บุกรุกป่าทำลายต้นน้ำ อ.มวกเหล็ก

กอ.รมน.สระบุรี บูรณาหน่วยงานบุกตรวจสอบการวัด บุกรุกป่าทำลายต้นน้ำ อ.มวกเหล็ก กอ.รมน.สระบุรีบูรณา หน่วยงานทหาร ตำรวจ สำนักป่าไม้ที่ 5 ตำรวจป่าไม้ สปก. ฝ่ายปกครอง ผู้ใหญ่บ้านหมู่15 เข้าตรวจสอบสำนักสงฆ์สิริธโรภาวนา ต.ซับสนุ่น อ.มวกเหล็กหลังรับเรื่องเรียนจากประชาชน ว่ามีวัดดัง ต.ซับสนุ่น อ.มวกเหล็ก ทำการบุกรุกป่าสงวน ระเบิดหินขาย ปิดเส้นทางเข้าออกในเขตป่าต้นน้ำ เคยมี ส่วนราชการ องค์กรเอกชน ร่วมกันปลูกป่าและสร้างฝ่าย ชะลอน้ำ
เมื่อ วันที่ 27 มิ.ย. 57 เวลา1400. น.กอ.รมน.จังหวัด สระบุรี นำโดย พันเอก พงษ์ศิลป์ สถิตขราณีย์.หัวหน้ากลุ่มงานข่าว. กอ.รมน.สระบุรี ร่วมกับ พ.ต.ท.ขจรชัย บุญโถ สว.สส.สภ.มวกเหล็ก จนท.ตร.สภ.มวกเหล็ก นายสมเนตร สว่าง หัวหน้าหน่วยรักษาป่า สบ 2 (ลำพญากลาง) สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 5 (สระบุรี) นายสุรัตน์ พูลสวัสดิ์ จนท.สำนักปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี,ร.ต.ต.อิทธิพล เปรมสนธิ กก.2 บก.ปสส. ตำรวจป่าไม้สระบุรี,ปลัดอำเภอมวกเหล็ก ,นายประสิทธิ์ ศรีสว่าง ผญบ.หมู่ที่ 15 ต.ซับสนุ่น อ.มวกเหล็ก และกำลังเจ้าหน้าที่ทหารจากจังหวัดทหารบกสระบุรีนำโดย ร.อ.มนตรี ทองรื่นพร้อมสื่อมวลชน กว่า 70 คน เข้าตรวจสอบสำนักสงฆ์สิริธโรภาวนา หมู่ที่ 15 ต.ซับสนุ่น อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี พบบริเวณดังกล่าวเป็นป่าต้นน้ำมีร่องรอยการสร้างฝ่ายทดน้ำ มีแอ่งน้ำขนาดใหญ่สร้างเขื่อนปิดทางน้ำตามธรรมชาติ ลักษณะแอ่งน้ำเกิดจากการขุดหินออกทำให้เกิดแอ่งหินขนาดใหญ่ ดัดแปลง เป็นบ่อรองรับน้ำไว้บริเวณโดยรอบเป็นที่พักสงฆ์ จำนวน 15 กุฏิ ถังปูนเก็บน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 10 ถังสอบถามเบื้องต้น พระพูนพิพัฒน์ จันทโชโต อายุ 43 ปี รับเป็นผู้ดูแลสำนักสงฆ์แห่งนี้ ได้รับการรับรองเป็นวัดเมื่อ 6 ก.พ. 57 มีพระจำพรรษาอยู่จำนวน 4 รูป ยอมรับว่า สำนักสงฆ์ฯขอใช้ที่ดินเพื่อสาธารณูปโภค(สำนักสงฆ์) จาก สปก.สระบุรี จำนวน 15 ไร่ แต่ได้บุกรุกพื้นที่ จำนวน 95 ไร่
ในขณะเดียวกัน นายสุรัตน์ ฯ เจ้าหน้าที่ สปก.สระบุรี กลับแจ้งว่า หลังการตรวจสอบ พบว่าสำนักสงฆ์ฯขอใช้ที่ดินเพื่อสาธารณูปโภค (สำนักสงฆ์) จาก สปก.สระบุรี จำนวน 15 ไร่ และพื้นที่อีก 23 ไร่ เป็นพื้นที่ สปก. ที่ สปก.เคยออกรังวัดไว้ แล้วบอกว่า อยู่นอกเขตพื้นที่ สปก. โดยตามหลักฐานมีหลักฐานของ สปก.ที่เคยออกไว้ จากเจ้าหน้าที่ .สปก. เองแต่ จะได้ทำการเพิกถอนและแจ้งความร้องทุกข์ในโอกาสต่อไป พร้อมกับพบว่าสำนักสงฆ์ดังกล่าวบุกพื้นที่ ป่าสงวนแห่งชาติอีก จำนวน 7 ไร่ 68 ตารางวา และมีการทำลายพื้นที่ภูเขา จำนวน 3 งาน 88 ตารางวา เจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 5 สระบุรี จึงได้เชิญพระพูนพิพัฒน์ จันทโชโต เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี เพื่อดำเนินการหาผู้กระทำความผิด มาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
(คนธรรมดา ม้าตัวเดียว)

แรงงานกัมพูชากลับเข้าทำงานในไทยด้านจังหวัดจันทบุรี

แรงงานกัมพูชาลงทะเบียนเข้าทำงานในประเทศไทยด้านจังหวัดจันทบุรี วันที่ 2 มียอดรวมกว่า 1,000 คน สนองนโยบาย คสช. สะดวก รวดเร็ว ลดขั้นตอน บรรยากาศการกลับเข้าทำงานในราชอาณาจักรไทยของแรงงานกัมพูชาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีนายจ้างนำแรงงานมาแสดงตน ทำบัตรจำนวนมากบริเวณศูนย์ประสานงานรับแรงงานกัมพูชาด่านชายแดนถาวรบ้านแหลม ตำบลเทพนิมิต และด่านชายแดนถาวรบ้านผักกาด ตำบลคลองใหญ่ อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี ซึ่งเป็นวันที่ 2 ของการเปิดให้แรงงานกัมพูชามาลงทะเบียนในการเข้าทำงานในประเทศไทย ด้านจังหวัดจันทบุรี พบว่ามีแรงงานกัมพูชาทยอยเดินทางมาลงทะเบียนแล้วกว่า 1,000 คน ใน 2 ด่าน โดยทางอำเภอโป่งน้ำร้อนได้นำเครื่องทำบัตรมาให้บริการ อำนวยความสะดวก ซึ่งใช้เวลาตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนเสร็จสิ้นประมาณ 10 นาที ซึ่งปัญหาในระยะนี้ยังไม่พบ เนื่องจากแรงงานกัมพูชายังเดินทางมาลงทะเบียนน้อย เพราะส่วนใหญ่ยังติดภาระการทำนาในประเทศ อย่างไรก็ตาม นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้เร่งให้ผู้นำท้องที่ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประชาสัมพันธ์ให้นายจ้างนำแรงงานมาแสดงตนทำบัตรให้ถูกต้องตามกฎหมาย และถือว่าจุดผ่านแดนของจังหวัดจันทบุรีมีความได้เปรียบ เพราะมีศูนย์ให้บริการเบ็ดเสร็จ 2 แห่ง จำนวนแรงงานที่มาใช้บริการก็น้อย ซึ่งหากผู้ประกอบการในกรุงเทพ ปริมณฑล หรือจังหวัดอื่นต้องการความสะดวก รวดเร็ว สามารถนำแรงงานไปใช้บริการได้ที่จังหวัดจันทบุรี นอกจากนี้จังหวัดได้มีการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับผู้นำกัมพูชา เพื่ออำนวยความสะดวกแก่แรงงานชาวกัมพูชาที่จะกลับเข้ามาทำงานในประเทศไทย รวมทั้งทางกัมพูชาได้ปรับลดค่าธรรมเนียมการทำหนังสือผ่านแดนแรงงานจาก 4 พันกว่าบาท เหลือประมาณรายละ 140 บาท ส่วนของฝั่งไทยมีหน่วยงานมาให้บริการเบ็ดเสร็จในจุดเดียว ทั้งด้านสาธารณสุข ตม. จัดหางาน ฝ่ายปกครอง ทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่ออำนวยความสะดวก ลดขั้นตอน เพิ่มความรวดเร็ว เป็นที่พอใจทั้งแรงงานและนายจ้างผู้ประกอบการเป็นอย่างมาก ลิขิต รักอยู่ สมุทรสาครนิวส์ ข้อมูลข่าวและที่มา ผู้สื่อข่าว : จรัล บรรยงคเสนา Rewriter : สุริยน ตันตราจิณ สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ : http://thainews.prd.go.th/

วันศุกร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2557

จ.สุพรรณบุรี ร่วมกับ ห้างโรบินสัน ฝึกซ้อมแผนดับเพลิงและอพยพหนีไฟ

ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน สาขาสุพรรณบุรี ร่วมกับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุพรรณบุรี หน่วยงานภาครัฐและเอกชน จัดฝึกซ้อมแผนป้องกัน บรรเทาสาธารณภัยและอพยพหนีไฟ ประจำปี 2557 โดยมีท่านสมชาย เลิศพงศ์ภากรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ให้เกียรติเป็นประธานในการซ้อมครั้งนี้
วันที่ 26 มิถุนายน 2557 เวลา 09.30 น. ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน สาขาสุพรรณบุรี โดยคุณสุทธิญา นิสารธุญยุ ผู้จัดการทั่วไป ร่วมกับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุพรรณบุรี โดย นางสมเจตน์ พรหมสุนทร หัวหน้าสำนักงาน ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุพรรณบุรี หน่วยงานภาครัฐและเอกชน จัดฝึกซ้อมแผนป้องกัน บรรเทาสาธารณภัยและอพยพหนีไฟ ประจำปี 2557 โดยมีท่านสมชาย เลิศพงศ์ภากรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ให้เกียรติเป็นประธานในการซ้อมครั้งนี้
tong Puckwalun ข่าว / ภาพ / เรวัติ น้อยวิจิตร สุพรรณอินชัวร์ดอทคอม rewat.noyvijit@hotmail.com 081-9107445