หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2557

จทบ.สระบุรี จัดพิธีสวนสนามอำลาธงชัยเฉลิมพลและผู้บังคับบัญชาฯ

พิธีสวนสนามอำลาธงชัยเฉลิมพลและผู้บังคับบัญชาของทหารกองประจำการ หน่วยทหารพื้นที่ จ.สระบุรี จังหวัดทหารบกจังหวัดสระบุรี(จทบ.สบ.) จัดพิธีสวนสนามอำลาธงชัยเฉลิมพลและผู้บังคับบัญชาให้กับทหารกองประจำการพื้นที่ จ. สระบุรี โดยมี พลตรีวิบูลย์พงศ์ อินทะพงษ์ ผบ.จทบ.สบ.เป็นประธานในพิธีพร้อมกับพบปะให้โอวาท ให้กับกำลังพล โดย มี ผบ.หน่วยทหาร ในพื้นที่ จังหวัดสระบุรีให้การต้อนรับ ณ.ลานพื้นแข็งจังหวัดทหารบกสระบุรี
เมื่อ 29เม.ย.57 เวลา 09.00 น. พลตรีวิบูลย์พงศ์ อินทะพงษ์ ผบ.จทบ.สบ.พร้อมคณะเดินทางเป็นประธานในพิธีสวนสนามอำลาธงชัยเฉลิมพลและผู้บังคับบัญชาของทหารกองประจำการ (พื้นที่ จ. สระบุรี) มี หน่วยทหารในพื้นที่จังหวัดสระบุรีประกอบด้วย หน่วยขึ้นตรง(นขต.) จังหวัดทหารบกสระบุรี ,ศูนย์การทหารม้าและนขต. กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พื้นที่จังหวัดสระบุรี) จำนวน 10 กองพัน กำลังพลจำนวน 1092 นาย ผู้แทนทหารกองประจำการ ประจำปี 2555 ผลัดที่ 1 ได้กล่าวนำปฏิญาณตนต่อหน้าธงชัยเฉลิมพล โดย มี พ.ท.นัฐภูมิ หลาวทอง. เป็น ผบ.กองผสม
พลตรีวิบูลย์พงศ์ อินทะพงษ์ ผบ.จทบ.สบ.กล่าวให้โอวาทว่า เพื่อนทหารทั้งหลายได้มารับราชการตามพระราชบัญญัติ ว่าด้วยการรับราชการทหาร จนครบกำหนดและจะพ้นหน้าที่ในกองประจำการตั้งแต่ 1 พ.ค.57 นี้ นับว่าเป็นการเสียสละอย่างสูงสุดของลูกผู้ชายที่ได้รับใช้แผ่นดินอันเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของตน ซึ่งน้อยคนนักจะได้มีโอกาสปฏิบัติหน้าที่นี้เยี่ยงท่านนับเป็นเกียรติประวัติที่น่าภูมิใจ แก่ตนเองเป็นอย่างยิ่ง การประกอบพิธี สวนสนามอำลาธงชัยเฉลิมพลและผู้บังคับบัญชาในวันนี้ มีความมุ่งหมายเพื่อให้เพื่อนทหารทั้งหลายได้มีโอกาสกล่าวคำอำลาผู้บังคับบัญชาต่อหน้าธงชัยเฉลิมพล อันเป็นสัญลักษณ์ของชาติที่มีเอกราชและอธิปไตยมาช้านานเป็นหลักชัยของกองทัพอีกทั้งเพื่อเตือนระลึกถึงอดีตว่า บรรพบุรุษของเราได้สร้างวีรกรรม เอาเลือดเนื้อ ชีวิตและความลำบากยากเข็ญ เข้าแลกเอาไว้ เพื่อให้แผ่นดินนี้เป็นมรดกตกทอดถึงลูกหลานไทยจนถึงทุกวันนี้ จึงเป็นหน้าที่ ที่พวกเราทุกคนจะต้องรักษาแผ่นดินนี้ต่อไปชั่ว นิรันดร์ พึงระลึกเสมอว่าภาระหน้าที่ในการรับใช้ชาติ มิได้หมดสิ้นไปในฐานะทหาร หากประเทศจำเป็นที่ต้องเกิดศึกสงคราม ในฐานะทหารกองหนุนจะต้องกับมารับใช้ชาติอีก จงนำความรู้และประสบการณ์ที่ดี นำไปเป็นประโยชน์ต่อครอบครัวและสังคม ประพฤติตนตามหน้าที่ เป็นแบบอย่างที่ดีของประชาชน เป็นพลเมืองที่ดี มีคุณธรรม ประกอบอาชีพสุจริต และยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทำตนให้สมกับที่ได้กล่าวปฏิญาณตนต่อหน้าธงชัยเฉลิมพล
(คนธรรมดา ม้าตัวเดียว)

วันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2557

อาชีวศึกษาสุพรรณบุรี เปิดอบรมการทำเบเกอรี่ เพื่อสร้างรายได้ให้ ปชช.

วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุพรรณบุรี โดย นางสาวฉันทนา พิพัฒน์บรรณกิจ ผู้อำนวยการสถานศึกษา พร้อมคณะผู้บริหาร และ คณาจารย์ ร่วมกัน จัดโครงการฝึกอบรมอาชีพในสถานศึกษา เพื่อพัฒนาอาชีพสำหรับประชาชน ที่ไม่มีงานทำ หรือ ผู้ที่ถูกเลิกจ้างงาน โดยมุ่งหวังให้ประชาชน มีอาชีพ มีรายได้ เลี้ยงครอบครัวได้ 28 เมษายน 2557 เวลา 09.00 น. นางสาวฉันทนา พิพัฒน์บรรณกิจ ผู้อำนวยการ วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุพรรณบุรี ได้เปิดรับสมัคร ประชาชน ที่สนใจจะเข้าร่วมโครงการ ฝึกอบรมอาชีพในสถานศึกษา เพื่อพัฒนาอาชีพสำหรับประชาชน ที่ไม่มีงานทำ หรือ ผู้ที่ถูกเลิกจ้างงาน ณ ห้องทะเบียน วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุพรรณบุรี โดยในเบื้องต้นจะทำการเปิดรับสมัคร จำนวน 2 รุ่นๆละ 10 วัน เตรียมหลักฐานการสมัคร 1 สำเนาบัตรประชาชน 2 สำเนาทะเบียนบ้าน 3 รูปถ่าย 1 นิ้ว จำนวน 2 รูป สอบถามรายละเอียด ในโครงการนี้ ได้ที่ โทรศัพท์ 035-511355 เริ่มเรียน รุ่นที่ 1 ในวันที่ 17-26 พฤษภาคม 2557 รุ่นที่ 2 วันที่ 27 พฤษภาคม - 5 มิถุนายน 2557 เวลา 08.00 - 17.00 น. ทุกวัน ที่สำคัญ งานนี้ " ฟรี " ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทางวิทยาลัยอาชีวศึกษาสุพรรณบุรี จึงขอเชิญชวน ผู้ที่สนใจ สมัครเข้าร่วมโครงการดังกล่าว ได้ตามรายละเอียด ข้างต้น เรวัติ น้อยวิจิตร สุพรรณอินชัวร์ดอทคอม rewat.noyvijit@hotmail.com 081-9107445

วันพฤหัสบดีที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2557

ม.นเรศวร ร่วมสืบสาน ตำนานมรดกไทยในประเพณีสงกรานต์

ร่วมประกวดก่อพระเจดีย์ทราย สนุกสุดใจกับการแข่งขันขูดมะพร้าว สายใยของครอบครัวและชุมชน ในประเพณีสงกรานต์ “ทำไมคนต่างจังหวัดชอบกลับบ้านช่วงวันสงกรานต์ รถก็ติด คนก็เยอะ กลับช่วงอื่นดีกว่ามั๊ย” คำถามของเพื่อนร่วมงานที่สะท้อนภาพความจอแจแออัดของผู้คนและรถราในเมืองกรุงช่วงวันสงกรานต์ “ก็เพราะเป็นวันที่ทุกคนไม่ว่ารัฐบาลหรือเอกชนหยุดงาน หยุดเรียน และเป็นวันหยุดยาว แต่ละคนจึงมุ่งหน้ากลับบ้าน กลับไปซบไออุ่นของครอบครัว” เพราะช่วงสงกรานต์ไม่ได้มีเพียงความสนุกสนาน ชื่นบาน คลายร้อน แต่ยังเป็นวันครอบครัว วันผู้สูงอายุ วันทำบุญใหญ่ วันแห่งกิจกรรมของคนทุกเพศ ทุกวัย เราจึงเป็นคนหนึ่งที่เคยยืนขาแข็งรอรถทัวร์ที่เข้าชานชาลาช้ากว่ากำหนดถึง ๓ ชั่วโมง เพียงเพื่อได้กลับไปอยู่พร้อมหน้าครอบครัวและร่วมกิจกรรมอันหลากหลาย
………………………………………………. เทศกาลสงกรานต์ในปี ๒๕๕๗ นอกจากการรดน้ำดำหัวญาติผู้ใหญ่ การสังสรรค์ของวงศ์ตระกูลที่ไม่ได้พบหน้ากันมาหลายปีแล้ว ยังได้ร่วมกิจกรรมของชุมชนอีกด้วย วันที่ ๑๖ เมษายน ๒๕๕๗ ณ วัดสะกัดน้ำมัน ตำบลท่าโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก เป็นแหล่งรวมของคนจาก ๓ หมู่บ้านเพื่อร่วมทำบุญผ้าป่าสร้างอุโบสถ สรงน้ำพระ รดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ และที่สำคัญยังได้ร่วมประกวดก่อพระเจดีย์ทราย และเชียร์การแข่งขันขูดมะพร้าวที่หาชมที่ไหนไม่ได้
เมื่อลูกสาว ลูกชาย พร้อมด้วยหลานสาวอีก ๒ คน บอกว่าจะเข้าประกวดก่อพระเจดีย์ทราย จึงเป็นหน้าที่ของบรรดาแม่และยายที่ต้องช่วยกันขนทราย หาอุปกรณ์และดอกไม้ หาร่มมากำบังไอแดดอันร้อนระอุ คนละไม้คนละมือ ด้วยไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน จึงต้องช่วยกันคิด ช่วยกันสร้างสรรค์ เกิดการถามไถ่ ถกเถียง ปรับเปลี่ยน ภายในเวลา ๒ ชั่วโมงก็ได้ชื่นชมผลงานของตัวเอง การก่อพระเจดีย์ทรายเป็นประเพณีที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาโดยตรง คนไทยผูกโยงประเพณีนี้เข้ากับคติความเชื่อเรื่องเวรกรรมในพระพุทธศาสนา มีการก่อพระเจดีย์ทรายถวายวัดเพื่อนำเศษดินทรายที่ติดเท้าออกจากวัดไปมาคืนวัดในรูปพระเจดีย์ทราย และเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาให้เป็นกุศลอานิสงส์ ด้วยมีเรื่องเล่าว่า พระเจ้าปเสนทิโกศลได้เสด็จไปยังเมืองสาวัตถีพร้อมบริวาร ได้เห็นหาดทรายขาวบริสุทธิ์ก็เกิดจิตศรัทธาก่อทรายเป็นเจดีย์ ๘ หมื่น ๔ พันองค์ แล้วอุทิศเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา และสังฆบูชา เมื่อพระองค์ไปเฝ้าพระพุทธเจ้าก็ได้ทูลถามถึงอานิสงส์การก่อเจดีย์ทรายดังกล่าว พระพุทธเจ้าตรัสว่า การที่มีจิตเลื่อมใสศรัทธาก่อเจดีย์ทรายถึง ๘ หมื่น ๔ พันองค์หรือเพียงองค์เดียวก็ได้อานิสงส์มาก คือ จะไม่ตกนรกร้อยชาติ ถ้าเกิดเป็นมนุษย์ก็จะเพียบพร้อมไปด้วยยศถาบรรดาศักดิ์ มีบริวารและเกียรติยศชื่อเสียง หากตายก็จะได้ขึ้นสวรรค์ พรั่งพร้อมด้วยสมบัติและมีนางฟ้าเป็นบริวาร ด้วยอานิสงส์ดังกล่าวจึงทำให้คนโบราณนิยมก่อเจดีย์ทรายเป็นประเพณีมาจนถึงทุกวันนี้ (http://www.oknation.net/blog/print.php?id=703678)
ในระหว่างรอกรรมการตรวจให้คะแนนผลงานพระเจดีย์ทรายที่เด็ก ๆ ช่วยกันตั้งชื่อว่า พระปฐมเจดีย์ พวกเราก็พากันไปชมและเชียร์การแข่งขันขูดมะพร้าว ซึ่งไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน นายสมพงษ์ ธูปบูชา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ ๑ บ้านวังส้มซ่า เล่าถึงที่มาของการจัดการแข่งขันขูดมะพร้าวว่า “ปกติช่วงวันสงกรานต์ หมู่บ้านของเราจะจัดการสรงน้ำพระและรดน้ำผู้สูงอายุเป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว แต่ปีนี้เราได้เพิ่มกิจกรรมประกวดก่อพระเจดีย์ทรายและการแข่งขันขูดมะพร้าวขึ้นมา เพื่อให้คนในหมู่บ้านได้สนุกสนานรื่นเริงกัน สำหรับการแข่งขันขูดมะพร้าวเป็นการรื้อฟื้นกิจกรรมในอดีต นั่นคือ เวลามีงานแต่งงาน งานบวช หรือทำบุญ ก็จะมีการระดมคนในหมู่บ้านช่วยกันปอกมะพร้าว ขูดมะพร้าว เพื่อทำอาหารเลี้ยงพระและผู้มาร่วมงาน ซึ่งเดี๋ยวนี้ใช้เครื่องขูดกันหมดแล้ว หรือไม่ก็ซื้อมะพร้าวสำเร็จมาเลย คนรุ่นใหม่ขูดมะพร้าวกันไม่เป็นแล้ว ที่หนักกว่านั้นคือจ้างโต๊ะจีนมาเลี้ยง สะดวกสบาย มาถึงก็นังกินได้ เลย” เราจึงเห็นผู้เข้าแข่งขันขูดมะพร้าวมีอายุตั้งแต่ ๔๐ ปีขึ้นไป เริ่มตั้งแต่การประดิดประดอยตกแต่งมีดและกระต่ายขูดมะพร้าวมาโชว์กันก่อน พอเสียงนกหวีดดังขึ้น คนหนึ่งปอก อีกคนขูด ด้วยความขะมักเขม้น เอาจริงเอาจัง แต่ที่เด็ดสุดเห็นจะเป็นบรรดาสมาชิกของแต่ละหมู่บ้านที่ส่งเสียงเชียร์กันอย่างเมามัน ช่วยลุ้น ช่วยพัดให้คลายร้อน เวลา ๕ นาทีของการแข่งขัน จึงมีแต่ความสนุกสนาน ครึกครื้น ดูเหมือนกองเชียร์จะเหนื่อยกว่าผู้เข้าแข่งขันเสียอีก
ผลการแข่งขันดูจะไม่สำคัญเท่าผลทางจิตใจ ความรื่นเริง หรรษา สมัครสมานสามัคคีของคนในชุมชน ฝ่ายลูกหลานของเราก็ดีใจกันยกใหญ่กับรางวัลชมเชยในการประกวดก่อพระเจดีย์ทราย พลางหมายมั่นปั้นมือกันว่า ปีหน้าจะเตรียมการมาให้พรั่งพร้อม หวังให้ได้รางวัลสูงกว่านี้ ภาพแห่งความร่วมแรงร่วมใจ สายใยและความอบอุ่น ...นี่ต่างหากแก่นแท้ของประเพณีสงกรานต์ อยู่ที่ไหนก็ไม่เหมือนบ้านเรา จะร้อนจะหนาวบ้านเราก็อุ่นใจ อุ่นด้วยความรักและความห่วงใย อย่าทิ้งบ้านไป บ้านของเรา พรปวีณ์ ทองด้วง นักประชาสัมพันธ์ สถานอารยธรรมศึกษา โขง-สาละวิน มหาวิทยาลัยนเรศวร

วันพุธที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2557

ครั้งหนึ่งในชีวิต ที่เป็นวันแห่งความภาคภูมิใจ ของ .. นายประพันธ์ บุญคุ้ม

นายประพันธ์ คุณนายสุเทียม บุญคุ้ม เปิดบ้านบุญคุ้ม ครั้งสำคัญเพื่อต้อนรับ " เพื่อนพ้อง น้องพี่ " ร่วมแสดงความยินดี ในโอกาส ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสายสะพาย สายหนึ่ง " ประถมาภรณ์มงกุฎไทย " เมื่อปี 2554 และ พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสายสะพาย สายสอง " ประถมาภรณ์ช้างเผือก " เมื่อปี 2556 ที่ผ่านมา โดยได้เข้ารับพระราชทานเมื่อ 14 เมษายน 2557 นับเป็นความปลื้มปิติแก่วงศ์ตระกูล อย่างหาที่สุดมิได้ ..!! Prapan Boonkum 15 เมษายน บริเวณ Bang Pla Ma " เป็นความภูมิใจสูงสุดอีกครั้งในการรับราชการที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสายสะพาย สายสอง เข้ารับพระราชทานเมื่อ 14 เมษายน 2557ที่ผ่านมาครับ "
วันที่ 21 เมษายน 2557 เวลา 18.00 น. นายประพันธ์ คุณนายสุเทียม บุญคุ้ม เปิดบ้านบุญคุ้ม ครั้งสำคัญเพื่อต้อนรับ " เพื่อนพ้อง น้องพี่ " ร่วมแสดงความยินดี ในโอกาส ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสายสะพาย สายสอง " ประถมาภรณ์ช้างเผือก " เมื่อปี 2556 ที่ผ่านมา โดยได้เข้ารับพระราชทานเมื่อ 14 เมษายน 2557 มี ณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสุพรรณบุรี หลายสมัย มาร่วมแสดงความยินดี
ในช่วงเวลา 19.30 น. ได้จัดให้มีพิธีรดน้ำขอพร ในโอกาสปีใหม่ไทย " หลังเทศกาลสงกรานต์ " โดยพิธีกร วัฒนากร คำพันธ์ ได้เรียนเชิญ ธงชัย กล่ำจตุรงค์ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นตัวแทน เพื่อนพ้องน้องพี่ กล่าวแสดงความยินดี ก่อนนำรดน้ำขอพร เพื่อเป็นสิริมงคล บรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่น ชื่นมื่น เป็นกันเอง มีเสี่ยหมู จตุพร อุ่นวิจิตร ขออนุญาตเป็นเจ้าภาพ เลี้ยงอาหารค่ำ แก่เพื่อนพ้อง น้องพี่ ในวันนี้ โดยในวันนี้ อาจารย์นิ่มนวล หาญทนงค์ ผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านภาษาไทย ยังได้ประพันธ์บทกวี ชื่นชมแก่เจ้าของงานไว้ดังนี้ ..
แด่ .. ท่านประพันธ์ บุญคุ้ม " ประถมาภรณ์ มงกุฎไทย " ที่ได้รับ ยศประดับ ชื่นชม สมศักดิ์ศรี พระราชทาน พูนเพิ่ม เสริมทวี สายสองสี แดงเด่น เป็นรางวัล " ประถมาภรณ์ ช้างเผือก " ประดับบ่า งามสง่า ขับขาน งานสร้างสรรค์ เกียรติประวัติ สูงสง่า ธำรงนิรันดร ท่านประพันธ์ บุญคุ้ม คุ้มครองภัย เป็นมิ่งขวัญ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ข้าราชการ คนชรา พักอาศัย กกต. เลือกตั้ง ทุกครั้งไป เป็นขวัญใจ ชาวนา ประชาชน เป็นนักร้อง เสียงทอง ชื่อก้องฟ้า บางปลาม้า ดังสะท้าน งานกุศล ยอดพ่อบ้าน ดีเด่น เป็นมงคล ประเสริฐล้น นอกใน ทั้งใจกาย กราบคุณพระ ไตรรัตน์ ประภัสสร ประทานพร รุ่งโรจน์ โชติฉายฉาน สุขสันต์ วันฉลอง สองสะพาย พาร้อนคลาย สืบสาน สงกรานต์ไทย นิ่มนวล หาญทนงค์
ประมวลภาพ โดย .. สุพรรณอินชัวร์ดอทคอม
นี่คือคำยืนยัน ในวันเกษียณอายุราชการ ที่ นายประพันธ์ บุญคุ้ม ภาคภูมิใจ ... " หมอบุญเอื้อ " พลตรีบุญเอื้อ ประเสริญสุวรรณ อดีตประธานรัฐสภา " คนดี ..ศรีบางปลาม้า " บอก .. นายอำเภอประพันธ์ บุญคุ้ม เป็นคนดี ขยันทำงาน เพื่อ พี่น้องชาวบางปลาม้า เมื่อคืนเลี้ยงส่ง ข้าราชการ ชั้นผู้ใหญ่ ในจังหวัดสุพรรณบุรี ฯพณฯ บรรหาร ศิลปอาชา ยังพูดอยู่เลย ว่า นายอำเภอบางปลาม้า เป็นนักพัฒนาตัวอย่าง และ รู้จักพื้นที่ บางปลาม้า ทุกตารางนิ้ว ซึ่งผมเองก็เห็นด้วย ว่า นายอำเภอ ประพันธ์ บุญคุ้ม ทุ่มเทอย่างมาก เพื่อคนบางปลาม้า หกปีเศษ ที่มาอยู่ที่นี่ ผมเองสบายใจ ว่า อำเภอบางปลาม้า ได้นายอำเภอ ที่ดี มาดูแลทุกข์สุข ให้กับชาวบ้าน ยิ่งเมื่อท่าน ได้ตัดสินใจ ปลูกบ้านอยู่ที่อำเภอบางปลาม้า หลังเกษียณอายุ ราชการ ในวันที่ 30 กันยายน 2556 ที่จะถึงนี้ ย่อมเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า ท่านรัก และ ผูกพันกับ คนบางปลาม้ามาก วันนี้ จึงถือโอกาสนี้ ต้อนรับท่านเข้าเป็นคนบางปลาม้า อย่างเต็มตัวเสียเลย ..
และนี่ก็คือความรู้สึกของท่าน เมื่อวันที่ได้พ้นหน้าที่ นายอำเภอ บางปลาม้า ในวันเกษียณอายุราชการ .. " นายประพันธ์ บุญคุ้ม นายอำเภอบางปลาม้า บอก ผม และ ครอบครัว ทั้ง คุณนายสุเทียม บุญคุ้ม นายดุษฏี บุญคุ้ม บุตรชาย และ นางสาว ชลาธาร บุญคุ้ม บุตรสาว ต่างรักที่นี่ อำเภอบางปลาม้า เป็นเมือง ที่น่าอยู่ อยู่แล้วสบายใจ ชาวบ้านที่นี่ ใช้ชีวิตกันแบบเรียบง่าย สบายๆ ชีวิตมีความสุข ครอบครัวผมจึงขอมาเป็นส่วนหนึ่ง ของที่นี่ หลังเกษียณอายุราชการ ก็จะยังคงดูแลทุกข์สุข ให้ชาวบ้าน แต่ในฐานะ พี่ดูแลน้อง เพื่อนดูแลเพื่อน เพราะเราก็จะเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาสามัญคนหนึ่งเท่านั้น มาอยู่ที่นี่หกปี มีความสุขมาก ได้ ฯพณฯ บุญเอื้อ ประเสริฐสุวรรณ อดีตประธานรัฐสภา ดูแลมาตลอด วันนี้ ยังได้ น้องๆ ที่อำเภอ น้องๆ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดูแล จนวาระสุดท้าย งานเลี้ยงเกษียณอายุ จัดให้ใหญ่มาก ชาวบ้านกว่า 5000 คน มาร่วมงาน วันนี้ดีใจมาก ดีใจที่ได้เป็นคนบางปลาม้า อย่างเต็มตัว หลังเกษียณอายุราชการ " ..
ความภาคภูมิใจ ของคนสุพรรณ กับ รางวัลโล่พระราชทาน หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง “ อยู่เย็น เป็นสุข ” ดีเด่น จังหวัดสุพรรณบุรี 6 ปีซ้อน
อำเภอบางปลาม้า เป็นอำเภอหน้าด่าน ของจังหวัดสุพรรณบุรี มีพื้นที่ ติดแม่น้ำท่าจีน หรือ แม่น้ำสุพรรณ มีประเพณีวัฒนธรรม เก่าแก่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคนมากมาย ทั้งประเพณีงานบุญเข้าพรรษา งานแห่เทียน ประเพณีตักบาตรกลางน้ำ งานแข่งเรือยาวประเพณีชิ้งถ้วยพระราชทานฯ งานบุญบั้งไฟ ของชาวไทยพวน ฯลฯ
นายประพันธ์ บุญคุ้ม นายอำเภอบางปลาม้า เปิดเผยว่า .. ตนเองเข้ามารับตำแหน่งนายอำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี ตั้งแต่ วันที่ 8 มกราคม 2550 ได้เห็นวิถีชีวิต ของคนในลุ่มน้ำท่าจีน ที่ อำเภอบางปลาม้า ก็รู้สึกนิยมชมชอบ ว่าคนที่นี่ มีอะไรที่น่าสนใจ น่าศึกษา มากมาย วิถีชีวิตของคนบางปลาม้า เป็นวิถีชีวิตที่อยู่กันแบบพอเพียง ไม่ฟุ้งเฟ้อ เข้ากับ หลักการเศรษฐกิจพอเพียง ของในหลวงท่าน ตนจึงมีแนวคิดอยากนำโครงการ หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง “ อยู่เย็น เป็นสุข ” ของในหลวงท่าน มาใช้กับชาวบ้านที่ บางปลาม้า
เพลงชุด “ เอกลักษณ์บางปลาม้า ” สร้างสรรค์และอำนวยการ โดย .. นายประพันธ์ บุญคุ้ม นายอำเภอ บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ( 2550-2556 )
นายประพันธ์ บุญคุ้ม นายอำเภอแหวนเพชร ของ อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี เปิดใจ สร้างสรรค์ผลงานเพลง ชุด “ เอกลักษณ์บางปลาม้า ” เพราะอยากสื่อในหลายๆ เรื่องราว ที่เป็นเอกลักษณ์ ของอำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อให้ ชนรุ่นหลัง ได้ MEMORY ไว้เป็นอีกหนึ่งความทรงจำดีๆ ผ่านบทเพลง ชุด เอกลักษณ์บางปลาม้า ..
ความเป็นมาของบทเพลงชุดนี้ .. นายประพันธ์ บุญคุ้ม เปิดเผยว่า .. ผมได้ย้ายมาเป็น นายอำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี ตั้งแต่ปี 2550 หลังเข้ารับตำแหน่ง ได้ออกสำรวจพื้นที่ ดูวิถีชีวิต และ ความเป็นอยู่ของชาวบางปลาม้า ก็รู้สึกประทับใจ อำเภอบางปลาม้า เป็นอำเภอที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ ประชากรมีฐานะดี ชาวบ้านส่วนใหญ่ ประกอบอาชีพ ทางการเกษตร ทำนาข้าว เลี้ยงกุ้ง เลี้ยงปลา ค้าขาย เป็นแหล่งวัตถุดิบ ส่งออกสู่ชุมชนอื่นที่สำคัญ เช่น ปลาช่อนเผารสเด็ด ที่ขายดิบขายดี อยู่ที่ร้านอาหารดัง ริมถนนวงแหวนตะวันตก กว่าวันละ 500 ตัว ก็ถูกส่งไปจาก บางปลาม้า บางปลาม้ายังเป็นแหล่งส่ง กุ้งก้ามกราม รายใหญ่ สู่ประเทศมาเลเซีย บางปลาม้า มีกุ้งแม่น้ำ ปลาม้า ซึ่งนำมาปรุงเป็นอาหาร ที่ขึ้นชื่อ ซึ่งหากใครได้มาเยือน แล้วไม่ได้มาลิ้มลอง ก็ถือว่า ยังมาไม่ถึงบางปลาม้า ได้แก่ ต้มยำปลาม้า กุ้งแม่น้ำทอดเกลือ สาลีแม่บ๊วย ก็เป็นขนมอร่อยของบางปลาม้า นอกจากนี้ บางปลาม้า ยังเป็นสถานที่พักผ่อน ในวันหยุด มาท่องเที่ยว มานอนพักในโฮมสเตย์ เรือนพักริมแม่น้ำ มี รีสอร์ท ที่สะอาด สะดวกสบาย ราคามิตรภาพ อยู่หลายแห่ง สำหรับท่านที่นิยม อาหารพื้นบ้าน ที่บางปลาม้า ก็มีร้านอาหารพื้นบ้าน ที่ขึ้นชื่อ อยู่หลายแห่ง เมนูเด็ด มีทั้ง ส้มตำแมงดา ปลาช่อนเผา ฯลฯ ท่านสามารถ ทานที่ร้าน ทานในเรือล่องไปตามแม่น้ำท่าจีน ก็สามารถจัดได้
บทส่งท้าย ของผู้ชายคนนี้ .. ที่มีแต่ให้ .. ผมเองรู้สึกภาคภูมิใจแทน คนบางปลาม้า ที่ได้มีโอกาส ทำงานให้กับท่าน ในบางครั้ง หรือ หลายๆครั้ง เพราะรู้สึกได้ว่า ชายคนนี้ นั้นเดินทางมาที่นี่ ด้วยความบังเอิญ แต่เกิดมาหลงไหล มาผูกพัน ด้วยใจรัก อย่างแท้จริง คงเป็นโชคชะตา กระมัง ที่นำท่านมาอยู่ที่นี่ .. ที่ บางปลาม้า คนดี .. ศรีบางปลาม้า คือคำที่ผมอยากจะยกให้ท่าน อีกผู้หนึ่ง ตามรอย " หมอบุญเอื้อ " ฯพณฯ บุญเอื้อ ประเสริฐสุวรรณ คนดี .. ศรีบางปลาม้า ผู้ชาย ซึ่งเป็นศูนย์รวมน้ำใจ ของคนบางปลาม้า ตามรอบ .. ณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ นักการเมือง ผู้มีหัวใจสีขาว คนดี .. ศรีบางปลาม้า และ ประพันธ์ บุญคุ้ม นายอำเภอบางปลาม้า ผู้ซึ่งทุ่มเท แรงกาย แรงใจ เพื่อชาวบางปลาม้า กว่า 6 ปีเต็ม และ บ้านปลายของชีวิต ก็ขอมาเป็นคน .. บางปลาม้า เรวัติ น้อยวิจิตร สุพรรณอินชัวร์ดอทคอม rewat.noyvijit@hotmail.com 081-9107445

วันอังคารที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2557

4 หน่วยงานด้านพิทักษ์ป่าฯ นำหมายศาลบุกตรวจค้นบ้าน ผอ.รร.ดัง สระบุรี

4 หน่วยงานด้านพิทักษ์ทรัพยากรป่าไม้ประสานงานนำหมายศาล บุกตรวจค้นบ้าน ผอ.โรงเรียนดัง ผู้ได้รับรางวัลข้าราชการดีเด่น จังหวัดสระบุรี ปี 57
กอ.รมน.บูรณาการ หน่วยงาน สนง.จัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 5 พร้อมส่วนยุทธการ กรมป่าไม้ และ ตำรวจ.สภ.มวกเหล็กนำหมายศาลบุกค้นบ้าน ผอ.โรงเรียนดัง เจ้าของรางวัลข้าราชการดีเด่นสระบุรี ปี 57 พบเป็นโรงงานแปรรูปไม้ขนาดย่อมพบท่อนซุงขนาดใหญ่ไม้แปรรูปอีกเป็นจำนวนมากเจ้าตัวอ้างมีหลักฐาน การได้มาไม้ของกลาง เจ้าหน้าที่ขอตรวจยึดไว้ ตรวจสอบพบร่องรอย พยายามซุกขี้เลื้อย ไม้แปรรูป อุปกรณ์ คาดทำการแปรรูปไม้มานานแล้ว หลังสายตรวจชุดเฝ้าติดตาม การลักลอบตัดไม้ ของกรมป่าไม้ รายงานพบบ้านต้องสงสัยจึงได้มีการบูรณาการหน่วยงานเข้าตรวจสอบ
เมื่อ 21 เม.ย. 57 เวลา15.30 น.พลโทคณิต อุทิตสาร. ผอ.ศปป 4. กอ.รมน พ.อ.พงษ์ศิลป์ สถิตขราณีย์ หัวหน้ากลุ่มงานข่าว.กอ.รมน.สบ.ร่วมกับ นายเฉลิมเกียรติ สุดสาคร. ผอ.ส่วนยุทธการกรมป่าไม้ นายมังกร เมี้ยนมิตร ผอ.ป้องกันและรักษาป่า นายสมเนตร สว่าง หน.หน่วยพิทักษ์ทัพยากรป่าไม้ (สบ.2 ลำพญากลาง) สนง.จัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 5 นายยุทธศาสตร์ กุลวรรณ. สายตรวจสายที่ 2. พ.ต.ท.ขจรชัย บุญโถ สว.สส.สภ.มวกเหล็ก. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 30 คน นำหมายศาลเข้าขอตรวจค้นบ้านเลขที่ 54 หมู่ 4 .ต.มิตรภาพ.อ.มวกเหล็ก. จ.สระบุรี ของนายสุรศักดิ์ วาดเขียน.ผอ.โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 68 (วัดเหวลาด) ตำบลมวกเหล็ก อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี ยังเป็นผู้ที่ได้รับรางวัลข้าราชการดีเด่น จังหวัดสระบุรี เมื่อ 1 เม.ย.57 ที่ผ่านมา
โดยนายสุรศักดิ์ วาดเขียน ได้นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบแต่โดยดี แต่มีหญิงวัยกลางคนเดินติดตามถ่ายภาพการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ต่อเนื่อง หลังเข้าตรวจสอบ พบว่าพื้นที่ภายในมีรั้วสูงปิดบังสายตาจากภายนอก เนื้อที่ประมาณ 14 ไร่ มีการประกอบกิจการแยกชิ้นส่วนเหล็กอุปกรณ์รถยนต์ รีไซเคิล พบคนงานกำลังก่อสร้างบ้านหลังใหญ่โดยมีการใช้ท่อซุง ขนาดใหญ่ทำเสาบ้านหลังดังกล่าว ยังพบไม้เป็นท่อนซุงและกองท่อนไม้ประดู่ ไม้สัก และไม้อื่นๆอีกพร้อมกับพบไม้สักไม้ประดู่แปรรูป ปลีกไม้ สภาพพึ่งได้รับการแปรรูปใหม่ๆวางอยู่ทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่พบร่องรอยการเลื้อยไม้และ จำนวนขี้เลื้อย เทียบเท่าขนาดโรงงานแปรรูปไม้ขนาดย่อมๆ พร้อมร่องรอยการขนย้าย ขยะรีไซเคิลและถัง 200 ลิตร นำมากลบเกลื่อนจำนวนขี้เลื้อย ร่องรอยใหม่ๆอย่างเห็นได้ชัด บริเวณใต้กองถัง 200 ลิตร ยังพบท่อนไม้ขนาดใหญ่ อีกทั้งภายในตู้คอนเทนเนอร์ ที่วางเรียงรายรอบๆ พบไม้สักไม้ประดู่ แปรรูป อีกเป็นจำนวนมาก
นายสุรศักดิ์ให้การ เบื้องต้นว่า เป็นไม้ที่ซื้อมาอย่างถูกต้อง มีเอกสารรองรับ แต่โดยสภาพแวดล้อมเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ จึงขอตรวจสอบหลักฐานอายัดยึดของกลางไว้ตรวจสอบและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
(คนธรรมดา ม้าตัวเดียว)