แม่เด็กอนุบาลวัย 5 ขวบ ร้องมูลนิธิปวีณาช่วยเหลือ หลังถูกหัวโจกชั้น ป.1 รุมทำร้ายอาการสาหัส ติดเชื้อในกระแสเลือดจนต้องเข้าห้องไอ.ซี.ยู.เตรียมนำตัวเข้ารับการรักษาที่รพ.จุฬาฯ และดำเนินคดีเด็กที่ลงมือทำร้าย
วันนี้ (12 มี.ค.) นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เดินทางไปที่ รพ.จุฬาฯ เพื่อเข้าเยี่ยมอาการของ ด.ช.อนุพัฒน์ หรือ น้องนนท์ สามทอง อายุ 5 ปี นักเรียนชั้นอนุบาล 1 โรงเรียนวัดวังกุ่ม อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี หลังจากที่ น.ส.สุวรรณา สามทอง อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นแม่ของน้องนนท์ เข้าร้องเรียนมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เมื่อวันที่ 11 มี.ค.ว่า หลานชายของตนเองถูกเด็กนักเรียนรุ่นพี่ที่โรงเรียนเดียวกันรุมทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส แขนหัก บอบช้ำภายใน จนติดเชื้อในกระแสเลือดเข้ารับการรักษาอยู่ห้องไอ.ซี.ยู.โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี อาการโคม่าขอให้นางปวีณาให้ความเป็นธรรมและช่วยหลานชายด้วย หลังรับเรื่องนางปวีณาได้ประสานกับแพทย์ รพ.จุฬาฯ เพื่อนำตัวด.ช.อนุพัฒน์ มารักษาตัวต่อ
น.ส.สุวรรณา กล่าวว่า เมื่อตอนเย็นวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ นางเล็ก พานถิน อายุ 55 ปีอาชีพรับจ้างทั่วไป ซึ่งมีศักดิ์เป็นย่าแท้ๆ นั่งทำกับข้าวอยู่ น้องนนท์ซึ่งกลับมาจากโรงเรียนได้เดินมาบอกว่ากับนางเล็ก ว่า ปวดแขนมาก สงสัยแขนจะหัก ซึ่งนางเล็กคิดว่าหลานไม่เป็นอะไรมาก คงเป็นเรื่องของเด็กที่เล่นซุกซนและบาดเจ็บเล็กน้อย จนตอนค่ำหลังจากน้องนนท์เข้านอน ก็มีอาการตัวร้อน มีไข้สูง และที่แขนมีอาการบวมมาก นอนทุรนทุราย จนช่วงเช้าวันต่อมาจึงได้รีบนำตัวส่งอนามัยโพธิพยา โดยแพทย์สันนิษฐานว่าแขนน่าจะหัก จึงแนะนำให้นำตัวส่งโรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช ซึ่งหลังจากนั้นแพทย์ได้ให้การรักษาโดยเข้าเฝือกและให้ยากลับมาทานที่บ้าน
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 9 มี.ค.ขณะน้องนนท์นอนอยู่ก็เกิดมีไข้สูง นอนหวาดผวา เพ้อออกมาว่า “อย่าทำหนู หนูกลัวแล้ว” และแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลเจ้าพระยายมราชอีกครั้ง เมื่อหมอตรวจอย่างละเอียดพบว่า มีอาการช้ำใน ต้องทำการเจาะท้องเพื่อเอาเลือดและหนองออก ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ในห้องไอ.ซี.ยู.ล่าสุดพบว่าติดเชื้อในกระแสเลือดลามไปถึงลิ้นหัวใจ ก่อนหน้านั้นได้สอบถามไปยังโรงเรียนของน้องนนท์ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันที่ 1 มี.ค.พอจับใจความได้ว่า ช่วงพักเที่ยงขณะที่เด็กๆ เล่นกันอยู่ที่สนามเด็กเล่นของศูนย์เด็กเล็ก ข้างเสาธง ได้มีเด็กนักเรียนชั้น ป.1 เดินมาตบศีรษะน้องนนท์จนเกิดการโต้เถียงกันและมีเด็กนักเรียนชั้น ม.1 รุ่นพี่ที่เป็นหัวโจกในโรงเรียนและเป็นญาติกับนักเรียนชั้น ป.1 คนดังกล่าว เข้ามาล็อกคอน้องนนท์แล้วให้เด็ก ป.1 คนนั้นต่อยแบบไม่ยั้งจนน้องนนท์ล้มลง
น.ส.สุวรรณา กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาพยายามสอบถามกับครูเพื่อขอให้ช่วยทำความจริงให้ปรากฏด้วย เพราะไม่ทราบว่าทำไมเด็กตัวเล็กแค่นี้ถึงมีเรื่องมีราวจนบาดเจ็บปางตาย และเหตุก็เกิดขึ้นภายในโรงเรียนด้วย แต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบ จึงได้เข้าแจ้งความ ที่ สภ.เมือง สุพรรณบุรี พร้อมกับเข้าร้องเรียนกับนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิฯเพื่อขอให้ช่วยให้ความเป็นธรรมกับเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย
นางปวีณา เปิดเผยว่า หลังรับเรื่องทราบว่าน้องนนท์มีอาการติดเชื้อในกระแสเลือด ถือว่าอาการหนักมาก จึงได้ประสานมาทาง รพ.จุฬาฯ ก่อนจะมีการส่งตัวเด็กเพื่อนำตัวมารักษาต่อและดูแลให้ความเป็นธรรมต่อไป
http://video.mthai.com/player.php?id=6M1363102927M0
http://www.dailynews.co.th/crime/190163
แม่เด็กอนุบาลวัย 5 ขวบ ร้องมูลนิธิปวีณาช่วยเหลือ หลังถูกหัวโจกชั้น ป.1 รุมทำร้ายอาการสาหัส ติดเชื้อในกระแสเลือดจนต้องเข้าห้องไอ.ซี.ยู.เตรียมนำตัวเข้ารับการรักษาที่รพ.จุฬาฯ และดำเนินคดีเด็กที่ลงมือทำร้าย
วันนี้ (12 มี.ค.) นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เดินทางไปที่ รพ.จุฬาฯ เพื่อเข้าเยี่ยมอาการของ ด.ช.อนุพัฒน์ หรือ น้องนนท์ สามทอง อายุ 5 ปี นักเรียนชั้นอนุบาล 1 โรงเรียนวัดวังกุ่ม อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี หลังจากที่ น.ส.สุวรรณา สามทอง อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นแม่ของน้องนนท์ เข้าร้องเรียนมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เมื่อวันที่ 11 มี.ค.ว่า หลานชายของตนเองถูกเด็กนักเรียนรุ่นพี่ที่โรงเรียนเดียวกันรุมทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส แขนหัก บอบช้ำภายใน จนติดเชื้อในกระแสเลือดเข้ารับการรักษาอยู่ห้องไอ.ซี.ยู.โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี อาการโคม่าขอให้นางปวีณาให้ความเป็นธรรมและช่วยหลานชายด้วย หลังรับเรื่องนางปวีณาได้ประสานกับแพทย์ รพ.จุฬาฯ เพื่อนำตัวด.ช.อนุพัฒน์ มารักษาตัวต่อ
น.ส.สุวรรณา กล่าวว่า เมื่อตอนเย็นวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ นางเล็ก พานถิน อายุ 55 ปีอาชีพรับจ้างทั่วไป ซึ่งมีศักดิ์เป็นย่าแท้ๆ นั่งทำกับข้าวอยู่ น้องนนท์ซึ่งกลับมาจากโรงเรียนได้เดินมาบอกว่ากับนางเล็ก ว่า ปวดแขนมาก สงสัยแขนจะหัก ซึ่งนางเล็กคิดว่าหลานไม่เป็นอะไรมาก คงเป็นเรื่องของเด็กที่เล่นซุกซนและบาดเจ็บเล็กน้อย จนตอนค่ำหลังจากน้องนนท์เข้านอน ก็มีอาการตัวร้อน มีไข้สูง และที่แขนมีอาการบวมมาก นอนทุรนทุราย จนช่วงเช้าวันต่อมาจึงได้รีบนำตัวส่งอนามัยโพธิพยา โดยแพทย์สันนิษฐานว่าแขนน่าจะหัก จึงแนะนำให้นำตัวส่งโรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช ซึ่งหลังจากนั้นแพทย์ได้ให้การรักษาโดยเข้าเฝือกและให้ยากลับมาทานที่บ้าน
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 9 มี.ค.ขณะน้องนนท์นอนอยู่ก็เกิดมีไข้สูง นอนหวาดผวา เพ้อออกมาว่า “อย่าทำหนู หนูกลัวแล้ว” และแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลเจ้าพระยายมราชอีกครั้ง เมื่อหมอตรวจอย่างละเอียดพบว่า มีอาการช้ำใน ต้องทำการเจาะท้องเพื่อเอาเลือดและหนองออก ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ในห้องไอ.ซี.ยู.ล่าสุดพบว่าติดเชื้อในกระแสเลือดลามไปถึงลิ้นหัวใจ ก่อนหน้านั้นได้สอบถามไปยังโรงเรียนของน้องนนท์ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันที่ 1 มี.ค.พอจับใจความได้ว่า ช่วงพักเที่ยงขณะที่เด็กๆ เล่นกันอยู่ที่สนามเด็กเล่นของศูนย์เด็กเล็ก ข้างเสาธง ได้มีเด็กนักเรียนชั้น ป.1 เดินมาตบศีรษะน้องนนท์จนเกิดการโต้เถียงกันและมีเด็กนักเรียนชั้น ม.1 รุ่นพี่ที่เป็นหัวโจกในโรงเรียนและเป็นญาติกับนักเรียนชั้น ป.1 คนดังกล่าว เข้ามาล็อกคอน้องนนท์แล้วให้เด็ก ป.1 คนนั้นต่อยแบบไม่ยั้งจนน้องนนท์ล้มลง
น.ส.สุวรรณา กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาพยายามสอบถามกับครูเพื่อขอให้ช่วยทำความจริงให้ปรากฏด้วย เพราะไม่ทราบว่าทำไมเด็กตัวเล็กแค่นี้ถึงมีเรื่องมีราวจนบาดเจ็บปางตาย และเหตุก็เกิดขึ้นภายในโรงเรียนด้วย แต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบ จึงได้เข้าแจ้งความ ที่ สภ.เมือง สุพรรณบุรี พร้อมกับเข้าร้องเรียนกับนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิฯเพื่อขอให้ช่วยให้ความเป็นธรรมกับเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย
นางปวีณา เปิดเผยว่า หลังรับเรื่องทราบว่าน้องนนท์มีอาการติดเชื้อในกระแสเลือด ถือว่าอาการหนักมาก จึงได้ประสานมาทาง รพ.จุฬาฯ ก่อนจะมีการส่งตัวเด็กเพื่อนำตัวมารักษาต่อและดูแลให้ความเป็นธรรมต่อไป
http://video.mthai.com/player.php?id=6M1363102927M0
http://www.dailynews.co.th/crime/190163
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น