หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2556

ราษฎรกลุ่มผลิตครก สระบุรี40 คน ร้องผู้ว่าฯไม่จ่ายส่วยโดนฟ้องไล่ที่

กลุ่มผู้ผลิตครกหิน สินค้ามี ชื่อ จ.สระบุรี เข้าร้องต่อ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีมีนายอำเภอเมืองคนใหม่ รับเรื่องแทน กรณีศาลมีคำสั่งให้กลุ่มฯออกนอกพื้นที่หลังผู้ใหญ่บ้าน ร้องศาลปกครองไล่ออกนอกพื้นที่ ให้ อบต.ปากข้าวสาร ดำเนินการขับไล่ราษฎรเอง อ้าง อบต. ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ชาวบ้านร้องฯโดนรังแก เนื่องจากไม่จ่าย ค่าเปิดหลุมหินให้ขาใหญ่ เมื่อวันที่ 18 มี.ค.56 เวลาประมาณ 09.00 น. ราษฎรกลุ่มผลิตครกหิน หมู่ที่ 3 ต.ปากข้าวสาร อ.เมืองสระบุรี ประมาณ 40 คน นำโดยนางศตพร แก้วบุตระ อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 26/11 หมู่ 3 ต.ปากข้าวสาร รวมตัวกันบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดสระบุรี เพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี กรณี ศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษาให้องค์การบริหารส่วนตำบลปากข้าวสารดำเนินการให้ราษฎรกลุ่มผลิตครกหินออกจากบริเวณพื้นที่เขาโป่งหรือเขาเท่อเล่อ หมู่ที่ 3 ตำบลปากข้าวสาร อำเภอเมืองสระบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณประโยชน์ของหมู่บ้าน ทำให้ได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากไม่มีที่อยู่อาศัยหลังจากอยู่มา 20 ปี และร้องขอให้ตรวจสอบพฤติการณ์ของนายสังคม เทียนทอง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 3 ตำบลปากข้าวสาร อำเภอเมืองสระบุรี และนายสวิง เกตุเพชร อดีตกำนันตำบลปากข้าวสาร ผู้ฟ้องคดี ราษฎรกลุ่มดังกล่าว บุกรุกที่สาธารณะต่อศาลปกครอง ชาวบ้านร้องขอความเป็นธรรม มีผู้ที่บุกรุกที่สาธารณะในบริเวณใกล้เคียงกันแต่ไม่มีการขับไล่แต่จะขับไล่เฉพาะกลุ่มของตน เนื่องจากกลุ่มอื่นมีการจ่ายผลประโยชน์ให้แก่ อดีต กำนัน ต.ปากข้าวสารที่อ้างว่า ดูแลพื้นที่และมีอาชีพการทำครกมาก่อนใคร นายชรัส บุญณสะ ปลัดจังหวัดสระบุรี จึงได้มอบให้นายอภิสรรค์ สง่าศรี นายอำเภอเมืองสระบุรี ชี้แจงทำความเข้าใจกับกลุ่มผู้ชุมนุม และให้นายสิทธา ภู่เอี่ยม ปลัดอำเภอ ผู้แทนศูนย์ ดำรงธรรมจังหวัดสระบุรีรับเรื่องขอความเป็นธรรมในกรณีดังกล่าวไว้พิจารณาดำเนินการต่อไปและได้ชี้แจงการแก้ปัญหาในอนาคตและให้ผู้ร้องเข้ารับฟังคำสั่งและเข้าชี้แจงต่ออัยการในวันที่ 20 มี.ค.56 กลุ่มผู้ชุมนุมพอใจได้แยกย้ายและเดินทางกลับ เมื่อเวลา 10.30 น. (คนธรรมดา ม้าตัวเดียว)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น