หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2558

สุพรรณบุรี นายสฤษฎิ์ น้ำค้าง เป็น ปธ.เปิดเวทีปฏิรูปประเทศ ที่โรงเรียนสงวนหญิง



             จังหวัดสุพรรณบุรี เดินหน้าจัดเวทีการมีส่วนร่วมและรับฟังความคิดเห็นระดับอำเภอ เน้นการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในพื้นที่โดยตรง   เพื่อให้ประเทศเดินหน้าสู่การปฏิรูปอย่างยั่งยืน ไม่ใช่เพียงการพัฒนาในระยะสั้นเท่านั้น







              นายสฤษฎิ์  น้ำค้าง นายอำเภอเมืองสุพรรณบุรี เป็นประธานในพิธีเปิดเวทีการมีส่วนร่วมและรับฟังความคิดเห็นของประชาชนระดับอำเภอ  ณ โรงเรียนสงวนหญิง อำเภอเมืองฯ จังหวัดสุพรรณบุรี วันนี้ (12 มิ.ย.58) ซึ่งเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในปฏิรูปประเทศ  โดยมีตัวแทนภาคประชาชนในแต่ละกลุ่มอาชีพต่างร่วมกันแสดงความคิดเห็นกว่า 70 คน พร้อมกล่าวว่า สภาพปัญหาของประเทศไทยที่มีความหลากหลายและสะสมมาเป็นเวลานาน ส่งผลให้ประเทศไม่พัฒนา ซึ่งจะต้องได้รับการแก้ไข โดยทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน เสนอประเด็นปฏิรูปประเทศให้รอบด้าน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาประเทศให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ตามนโยบายรัฐบาลอย่างยั่งยืน








               ด้านวาที่ ร.ต. ภาสกร สิริภคยาพร รองผูอํานวยการการเลือกตั้ง รักษาการผูอํานวยการการเลือกตั้งประจําจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวเพิ่มเติมถึงเป้าหมายของการจัดเวทีการมีส่วนร่วมและรับฟังความคิดเห็นของประชาชนว่าเป็นการเสริมสร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของการปฏิรูปประเทศ ให้ประชาชนมีความรัก ความสามัคคี  และความเข้าใจตรงกัน เกี่ยวกับการปฏิรูปและจะรวบรวมข้อคิดเห็นของประชาชนเสนอต่อสภาปฏิรูปแห่งชาติและคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญเพื่อประกอบการปฏิรูปประเทศต่อไป





              ทั้งนี้ภาคประชาชนได้ร่วมเสนอข้อคิดเห็น 4 ประเด็น ประกอบด้วย การลดความเหลื่อมล้ำของสังคม การปฏิรูปการศึกษา การแก้ไขปัญหาทุจริตคอรัปชั่น และการเลือกตั้งที่สุจริตโปร่งใส ไม่มีการซื้อสิทธิขายเสียง




              บรรยากาศเวทีการมีส่วนร่วมและรับฟังความคิดเห็นของประชาชนระดับอำเภอ  ณ โรงเรียนสงวนหญิง อำเภอเมืองฯ จังหวัดสุพรรณบุรี ประชาชนต่างร่วมเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำในหลายประเด็น เช่น การศึกษาที่ปัจจุบันพบว่า การใช้จ่ายงบประมาณเพื่อการช่วยเหลือของรัฐบาลมีความล่าช้า คุณภาพการศึกษาระหว่างสถานศึกษาของรัฐบาลและเอกชนไม่เท่าเทียมกัน ด้านสาธารณสุขค่อนข้างมีปัญหาที่สะสมเป็นเวลานาน การให้บริการมีความเหลื่อมล้ำ เลือกปฏิบัติ ขั้นตอนการรักษามีความล่าช้า ส่งผลต่อความปลอดภัยในชีวิตของประชาชน รวมถึงการปฏิบัติงานด้านการบริหารของบุคลากรที่ไม่ก่อให้เกิดความพึงพอใจกับประชาชน นอกจากนี้ในด้านการบังคับใช้กฎหมาย ประชาชนที่ยากจนไม่ได้รับความเป็นธรรม ช่องว่างทางกฎหมายส่งผลให้เกิดความบิดเบือนจากความจริง  ผู้มีอำนาจบางกลุ่มอยู่เหนือการควบคุมของกฎหมาย ทำให้ไม่สามารถแก้ปัญหาต่างๆ ได้อย่างแท้จริง



   

               ทั้งนี้ การรับฟังความคิดเห็นของประชาชนระดับอำเภอของจังหวัดสุพรรณบุรี ได้จัดขึ้นเป็นเวทีที่ 6 ซึ่งจะแล้วเสร็จทั้ง 10 อำเภอ ภายในเดือนมิถุนายนนี้ โดยทุกความคิดเห็นจากประชาชนเป็นสิ่งสำคัญที่คณะกรรมาธิการการมีส่วนร่วมและรับฟังความคิดเห็นของประชาชนจะรวบรวมเพื่อนำเสนอต่อสภาปฏิรูปแห่งชาติ และกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญเพื่อการแก้ไขปัญหาและนำพาประเทศไทยก้าวสู่ความยั่งยืนต่อไป




               นายชูชาติ  อินสว่าง สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ประจำจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวถึง การทำงานของสภาปฏิรูปแห่งชาติ ในการเดินหน้าเปิดเวทีการมีส่วนร่วมและรับฟังความคิดเห็นของประชาชนจังหวัดสุพรรณบุรี ระดับอำเภอ ซึ่งจะเสร็จสิ้นในเดือนมิถุนายนนี้  เพื่อรวบรวมความคิดเห็นของประชาชนเสนอต่อสภาปฏิรูปแห่งชาติ โดยเน้นย้ำว่าประเทศไทย ต้องก้าวสู่การปฏิรูป เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่เพียงแค่การพัฒนาในระยะสั้นเท่านั้น ประชาชนจึงจำเป็นต้องรู้เท่าทันข้อมูลข่าวสาร รวมถึงการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อตั้งข้อสังเกตและร่วมกันแสดงความคิดเห็นเพื่อนำพาประเทศไปสู่ความเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน






                ทั้งนี้ ประเทศไทยประสบกับปัญหาหลายด้าน และสะสมเป็นเวลานานไม่ว่าจะเป็นการทุจริตคอรัปชั่นของนักการเมืองโดยมีภาคธุรกิจเอกชนเข้ามาเกี่ยวข้องเพื่อหาผลประโยชน์ ระบบราชการไม่มีความเข้มแข็ง ถูกแทรกแซงอำนาจ สัดส่วนข้าราชการและเจ้าหน้าที่ขาดความสมดุล การปฏิบัติงานขาดประสิทธิภาพ กระบวนการทำงานมีหลายขั้นตอนเกิดความซับซ้อนและล่าช้า ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะต้องได้รับการแก้ไขเพื่อประเทศไทยที่ยั่งยืนในอนาคต





เกรียงไกร ก่อเกียรติตระกูล บรรณาธิการข่าวท้องถิ่น อู่ทองนิวส์
เรวัติ น้อยวิจิตร hub admin rewat.noyvijit@hotmail.com 08-1910-7445

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น