หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2557

ปิโตรเลียม ความหวังพลังงาน ทางเลือก ทางรอด

นับตั้งแต่มีแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับแรกในปี พ.ศ. 2504 ประเทศไทยได้มีการเปลี่ยนแปลงจากสังคมเกษตรกรรมไปสู่สังคมอุตสาหกรรมมากขึ้นตามลำดับ ตลอดช่วงเวลา 50 ปีที่ผ่านมาความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ การขยายตัวในภาคอุตสาหกรรม และการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำรงชีวิตของคนไทยในทิศทางที่พึ่งพาการใช้พลังงานในด้านต่างๆ มากขึ้น ส่งผลให้ประเทศไทยมีความต้องการใช้พลังงานเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงต้องหาแหล่งทรัพยากรธรรมชาติในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของปริมาณการใช้พลังงานต่อไปในอนาคต
กว่า 40 ปี ของการดำเนินงานสำรวจปิโตรเลียมภายใต้พระราชบัญญัติปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 ได้มีบริษัทน้ำมันจำนวนมากเข้ามาลงทุนสำรวจปิโตรเลียมในฐานะผู้รับสัมปทานปิโตรเลียม จนในปี 2524 นับเป็น ก้าวที่สำคัญของการค้นพบก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยและเริ่มการผลิตจากแหล่งเอราวัณได้เป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2524 ความสำเร็จดังกล่าวนอกจากจะเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงสะอาดสำหรับการผลิตไฟฟ้าทดแทนการใช้น้ำมันเตาแล้ว ก็ยังเป็นจุดเริ่มแรกของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและอุตสาหกรรมต่อเนื่องอื่นๆ ในประเทศซึ่งมีส่วนในการสร้างเสริมความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศจนถึงปัจจุบัน
แม้ว่าจะมีอุปสรรคหลายประการต่อการดำเนินงานสำรวจและผลิตปิโตรเลียม เช่น มหาอุทกภัยในทุกภาคของประเทศ อุบัติเหตุท่อส่งก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย หรือปัญหามุมมองที่แตกต่างกันต่อการสำรวจและพัฒนาปิโตรเลียมในบางพื้นที่ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติก็ได้ปฏิบัติงานและพยายามแก้ไขข้อขัดข้องและอุปสรรคต่างๆ ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจจริงที่จะสร้างประโยชน์สูงสุดให้แก่ประเทศ โดยการสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน ซึ่งให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน การรักษาสภาพสิ่งแวดล้อม และความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน โดยเป็นแนวทางการดำเนินงานที่กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติยึดถือมาตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบันและต่อเนื่องไปในอนาคต คงปฏิเสธไม่ได้ ว่าความต้องการพลังงานของประเทศไทยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามการเปลี่ยนแปลงของประชากร และการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้นการสำรวจหาแหล่งปิโตรเลียมในประเทศจึงเป็นทางเลือกทางรอดที่ดีของวิกฤตพลังงานไทย ในปัจจุบัน ขอบคุณข้อมูล จาก.. กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน

ป.ป.ช. คลอดโผ คณะกรรมการ ป.ป.จ.สุพรรณบุรี " ชูศักดิ์ " นั่งประธานฯ

นายปานเทพ กล้าณรงค์ราณ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. ลงนามแต่งตั้ง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดสุพรรณบุรี หรือ คณะกรรมการ ป.ป.จ.สุพรรณบุรี ตามคำสั่ง คณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่ 50/2557 ลงวันที่ ลงวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2557 แต่งตั้ง นายชูศักดิ์ กุลทัพ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. นายสุรัชต์ ธวัชโยธิน กรรมการ ป.ป.ช. พลตำรวจตรีสมศักดิ์ รักซ้อน กรรมการ ป.ป.ช. ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2557 เป็นต้นไป
ตามที่ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ดำเนินการ สรรหา คณะกรรมการป้องกัน และ ปราบปรามการทุจริต ประจำจังหวัดสุพรรณบุรี ตามประกาศ สำนักงาน ป.ป.ช เรื่อง การรับสมัคร คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดสุพรรณบุรี ลงวันที่ 17 มิถุนายน 2556 ตามรายละเอียด ทราบแล้วนั้น
นายปานเทพ กล้าณรงค์ราณ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. อาศันอำนาจตามความในมาตรา 103/13 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม ( ฉบับที่ 2 ) พ.ศ. 2554 และ ข้อ 33 ของระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัด พ.ศ. 2555 ประกอบมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อพิจารณาคัดเลือกบุคคลตามบัญชีรายชื่อ ที่ คณะกรรมการสรรหาเสนอเป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดในการประชุม ครั้งที่ 9-1/2557 เม อวันที่ 17 มกราคม 2557 คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงแต่งตั้ง กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดสุพรรณบุรี ดังนี้
นายพงษ์ศักดิ์ โชติพงษ์ รักษาการ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดสุพรรณบุรี 1. นายชูศักดิ์ กุลทัพ ประธานกรรมการ ป.ป.จ.สุพรรณบุรี 2. นายสุรัชต์ ธวัชโยธิน กรรมการ ป.ป.จ.สุพรรณบุรี 3. พลตำรวจตรีสมศักดิ์ รักซ้อน กรรมการ ป.ป.จ.สุพรรณบุรี ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 24 มกราคม พ.ศ.2557
สถานีวิทยุกระจายเสียง แห่งประเทศไทย จังหวัดสุพรรณบุรี โดย " พี่ตุ้ม " รัชดาภรณ์ พิสิฐปริวรรต นักสื่อสารมวลชนชำนาญการ เจาะใจ สัมภาษณ์สด ชูศักดิ์ กุลทัพ ประธานกรรมการ ป.ป.จ.สุพรรณบุรี สุรัชต์ ธวัชโยธิน กรรมการ ป.ป.จ.สุพรรณบุรี และ พงษ์ศักดิ์ โชติพงษ์ รักษาการ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดสุพรรณบุรี ผ่านสื่อวิทยุกระจายเสียง แห่งประเทศไทย จังหวัดสุพรรณบุรี ฯ
" พี่เปิ้ล " วัฒนพล มัจฉา ผู้สื่อข่าวพิเศษ ค่าย เดลินิวส์ พร้อมด้วย ธนกฤต แตงโสภา จาก สุพรรณนิวส์เคเบิ้ลทีวี สัมภาษณ์สด ชูศักดิ์ กุลทัพ ประธานกรรมการ ป.ป.จ.สุพรรณบุรี สุรัชต์ ธวัชโยธิน กรรมการ ป.ป.จ.สุพรรณบุรี และ พลตำรวจตรีสมศักดิ์ รักซ้อน กรรมการ ป.ป.จ.สุพรรณบุรี โดยมี พงษ์ศักดิ์ โชติพงษ์ รักษาการ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดสุพรรณบุรี ในฐานะ เลขาคณะทำงานฯ ร่วมชี้แจง เมื่อเช้านี้ เรวัติ น้อยวิจิตร สุพรรณอินชัวร์ดอทคอม rewat.noyvijit@hotmail.com 081-9107445

วันพุธที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2557

มหกรรมป้องกันและแก้ไขปัญหาความยากจน จังหวัดสระบุรี

เมื่อ 28 ม.ค.57 สำนักงานพัฒนาการจังหวัดสระบุรีจัดกิจกรรม "มหกรรมแก้จน สร้างคน สร้างอาชีพ สร้างรายได้อย่างยั่งยืน" เพื่อ"ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส"ประชาชน จัดฝึก อบรมอาชีพ แก่ประชาชน โดยมี วิทยากร มืออาชีพ ให้การอบรม โดย ผู้เข้ารับการอบรมมีโอกาสได้เข้ารับการอบรมได้หลากหลายอาชีพพร้อมกัน แบ่งเป็น 6 สถานี 6 อาชีพ มีทั้ง ภาคเช้าและภาคบ่าย มีผู้สนใจเข้าอบรม จำนวน 240 คน ณ บริเวณวัดศาลาแดง อ.เมือง จังหวัดสระบุรี
นางอารีย์ คีรีวรรณ พัฒนาการจังหวัดสระบุรี ได้ชี้แจงแนวทางการแก้ไขปัญหาความยากจน เพื่อลดจำนวนครัวเรือนยากจนที่มีรายได้ตกเกณฑ์ จปฐ. ในการแก้ไขปัญหาแบบบูรณาการ ชี้เป้าหมายชีวิต จัดทำเข็มทิศชีวิต บริหารจัดการชีวิต และการดูแลชีวิต สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดสระบุรี จึงจัดกิจกรรม มหกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาความยากจน ภายใต้แนวคิด "มหกรรมแก้จน สร้างคน สร้างอาชีพ สร้างรายได้อย่างยั่งยืน" และแนวคิด "ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส" เพื่อให้ครัวเรือนยากจน เป้าหมายที่ตกเกณฑ์ มีโอกาสเข้ารับการฝึกอบรมอาชีพประกอบด้วย การถักพรมเช็ดเท้าจากเศษผ้า,งานประดิษฐ์เดคูพาจ,งานประดิษฐ์ดอกไม้จากใบเตย,พับเหรียญริบบิ้นโปรยทาน,ถักผ้าพันคอจากบล็อกไม้ ,การทำน้ำยาอเนกประสงค์,เพื่อนำไปประกอบอาชีพและสร้างรายได้ จึงจัดกิจกรรมขึ้นในวันที่ 28 มกราคม 2557 ณ บริเวณวัดศาลาแดง อ.เมือง จังหวัดสระบุรี
(คนธรรมดา ม้าตัวเดียว)

งานรวมพลังเครือข่าย เศรษฐกิจพอพียง/เฉลิมพระเกียรติ 2557

งานรวมพลังเครือข่าย เศรษฐกิจพอพียง/เฉลิมพระเกียรติ 2557
พัฒนาการจังหวัดสระบุรีจัดงานรวมพลังเครือข่าย เศรษฐกิจพอพียง/เฉลิมพระเกียรติ ประจำปี 2557 พัฒนาการจังหวัดสระบุรี จัดงานรวมพลังเครือข่ายขยายผลการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอพียง/เกษตรทฤษฏีใหม่เฉลิมพระเกียรติ ประจำปี 2557 และตลาดนัดอาชีพเพื่อสนับสนุนการบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนระดับพื้นที่เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ณ หน้าสนามหน้าศาลากลางจังหวัดสระบุรี
เมื่อ 27 ม.ค.57 เวลา 16.30 น.นางอารีย์ คีรีวรรณ พัฒนาการจังหวัดสระบุรีจัดงานรวมพลังเครือข่ายขยายผลการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอพียง/เกษตรทฤษฏีใหม่เฉลิมพระเกียรติ ประจำปี 2557 และตลาดนัดอาชีพโดย มีนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีเป็นประธานเปิดงานพร้อมคณะหัวหน้าส่วน ราชการจังหวัดสระบุรี พร้อมกันนี้ยังได้รับเกียรติจากนายจรัล จึงยิ่งเรืองรุ่ง สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดสระบุรีร่วมเป็นเกียรติในงานและยังได้รับการสนับสนุน กิจกรรม จาก นายเฉลิม วงษ์ไพรนายก องค์การบริหารส่วนจังหวัดสระบุรี โดย นายแสวง บุญรักศิลป์ปลัด อบจ.สบ. พร้อม คณะกลุ่มและองค์กรคณะกรรมการพัฒนาสตรี ประชาชนทั่วไป เข้าร่วมงานพร้อมกับมีแจกฟรีอาหารสาธิตและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ การผลิตสิ่งประดิษฐ์จากมือ เช่นงานประดิษฐ์จาก เรซิ่นของเด็กนักเรียนโรงเรียนหน้าพระลาน(พิบูลย์สงเคราะห์)โดย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีได้ให้การสนับสนุนด้วยจำนวน 2 ชุด
นางอารีย์ คีรีวรรณ พัฒนาการจังหวัดสระบุรีกล่าวว่า จังหวัดสระบุรีได้มีการดำเนินการขยายผลเกษตรทฤษฏีใหม่เชื่อมโยงการขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอพียงมาตั้งแต่ ปี50ในพื้นที่ ทั้ง 13 อำเภอ 973 หมู่บ้านสามารถเป็นต้นแบบ 180 หมู่บ้านโดยปีนี้ได้ ต่อยอดพลังงานทนแทนในหมู่บ้านต้นแบบเพื่อลดต้นทุนพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อมสนับสนุนการทีมสาธิตจากกรมพลังงาน พร้อมกับมีกิจกรรมจัดเวที เรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นการสาธิตด้านพลังงานจัดตลาดนัด อาชีพ ระยะสั้น เช่น การประดิษฐ์เศษวัสดุเหลือใช้จากกระป๋องน้ำอัดลมเป็นรถตุ๊กๆ การเพาะถั่วงอกจากไห การดัดลวดรูปสัตว์ การทำอาหารไทย ฯลฯ และ เครือข่าย OTOP ในจังหวัดสระบุรี เป็นการประชาสัมพันธ์ผลผลิตให้แพร่หลายกับกลุ่มเป้าหมายสนใจอาชีพโดยตรง เพื่อให้สามารถพัฒนาตนเองสู่มาตรฐานสากลที่ยอมรับทั่วไป
(คนธรรมดา ม้าตัวเดียว)

วันอังคารที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2557

สระบุรี- ศม.เปิดการฝึกภาคสนามวิชายุทธวิธีเหล่าทหารม้า นักเรียนนายร้อย ปี 3

เมื่อ 27 ม.ค.57 เวลา 10.00 น.ที่ลานอเนกประสงค์บุญชัย บำรุงพงศ์ หน้า กองบัญชาการศูนย์การทหารม้า จังหวัดสระบุรี พลตรีชัยยุทธ พร้อมสุข ผู้บัญชาการศูนย์การทหารม้า ได้ทำการต้อนรับอาจารย์และคณะนักเรียนนายร้อยชั้นปีที่ 3 ที่เดินทางมาฝึกวิชาทหารม้าและเป็นประธานเปิดการฝึกภาคสนามวิชายุทธวิธีทหารม้าระดับหมวดของนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าชั้นปีที่ 3 ประจำปีการศึกษา2557
ทั้งนี้โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ได้นำนักเรียนนายร้อยชั้นปี่ที่ 3 จำนวน 197 นาย เข้ารับการฝึกภายในศูนย์ฝึกศูนย์การทหารม้า สระบุรี โดยมีห้วงการฝึกตั้งแต่วันที่ 26 มกราคมถึงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2557 ระยะเวลา 15 วัน ซึ่งเป็นการฝึกภาคสนาม วิชายุทธวิธีทหารม้าระดับหมวด โดยจะเข้าฝึกในพื้นที่การฝึกศูนย์การทหารม้าและพื้นที่กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ โดยมีประสงค์เพื่อให้นักเรียนนายร้อยชั้นปีที่ 3 มีทักษะในภาคปฏิบัติงานเป็นชุดหมู่คณะ และการนำหน่วยในหมวดทหารม้าทั้ง 3 ประเภท ตลอดจนเสริมสร้างระสบการณ์วิชาการให้มีความรู้ ในด้านการใช้อาวุธ ยุทโธปกรณ์ในเหล่าทหารม้าอย่างแม่นยำ
สำหรับการฝึกของนักเรียนนายร้อยชั้นปีที่ 3 ที่จะเข้าฝึกในพื้นที่จังหวัดสระบุรี จะแบ่งห้วงเวลาการฝึก คือการศึกษาภาคทฤษฏี ประกอบไปด้วยวิชา หลักนิยม ภารกิจ การจัด และขีดความสามารถ อาวุธยุทโธปกรณ์ของเหล่าทหารม้า โดยแผนกแผนกองยุทธการและการข่าวศูนย์การทหารม้าและกองพลทหารม้าที่2 รักษาพระองค์ 2. คือขั้นตอนการฝึกเป็นบุคคลและการฝึกเป็นหน่วย การฝึกขี่ม้าเบื้องต้นโดยแผนกวิชาการขี่ม้า กองการศึกษาโรงเรียนทหารม้าศูนย์กาทหารม้า การฝึกขับรถถังและรถสายพานเบื้องต้นโดยกองการศึกษาโรงเรียนทหารม้า ศูนย์การทหารม้า และการฝึกหน่วยประจำรถถัง รวมไปถึงการยิงปืนใหญ่รถถังด้วยกระสุนจริง โดยนักเรียนนายร้อยชั้นปีที่ 3 กำหนดเข้าฝึกภายในพื้นที่จังหวัดสระบุรีตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2557
คนธรรมดา ม้าตัวเดียว

วันจันทร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2557

เลือกตั้งล่วงหน้า จังหวัดสระบุรี รปภ.เข้ม ผู้ใช้สิทธิ์บางตา

บรรยากาศการเลือกตั้งล่วงหน้า จังหวัดสระบุรี รปภ.เข้ม ผู้ใช้สิทธิ์บางตา การเลือกตั้ง สส.ล่วงหน้า ทั้งในเขตนอก เขตจังหวัดสระบุรี ค่อนข้างเงียบเหงา จัดเจ้าหน้าที่รักษาความสงบ กว่าครึ่งพัน คุมเข้ม ปิดถนนผ่านหน้าศาลากลาง ทำรถติดทั้งเมือง เหตุกลัวกระแส กลุ่ม กปปส.สระบุรี ต้านเลือกตั้ง
เมื่อ 26 ม.ค.57 ตั้งแต่ เวลา 08.00 น.-15.00 น.ช่วงเช้าบรรยากาศการเลือกตั้งล่วงหน้าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์จังหวัดสระบุรี แบบนอก เขต บริเวณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดสระบุรี ค่อนข้างเงียบเหงา มีประชาชนที่ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าเกือบ 2 หมื่นคน มีประชาชนทยอยมาเลือกตั้งล่วงหน้าของแต่ละจังหวัด จนเวลาปิดหีบเลือกตั้งในเวลา 15.00 น. เพียง 1,899 คนคิดเป็นร้อยละ9.54 %.
ในขณะที่การเลือกตั้งล่วงหน้าแบบในเขตบริเวณ หน้าที่ว่าการ อ.เมืองสระบุรี เลือกตั้งที่ 1 อ.เมือง อ.เฉลิมพระเกียรติ มีผู้มาลงทะเบียน 259 คน มาใช้สิทธิ์เพียง 104 คน คิดเป็น40.15 % ผู้ลงทะเบียนไว้ที่เลือกตั้งที่ เขต 2 ลงทะเบียนไว้ 57 คนมาใช้สิทธิ์ 35 คน คิดเป็น 35% เขต 3 ลงทะเบียน 86 คน มาใช้สิทธิ์ 71 คิดเป็นร้อยละ 82 .56 % เขต 4 ลงทะเบียน 65 มา 54 คิด83.07 % สรุป ยอดรวมทั้ง 4 เขต เลือกตั้งจังหวัดสระบุรี ลงทะเบียนไว้ 445 คน ผู้มาใช้สิทธิ์ 264 คิดเป็น53.32%
ในขณะที่มี เจ้าหน้าที่ ตำรวจ ,อพปร .อส. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เข้ารักษาการณ์ ดูแลความสงบเรียบร้อย รอบศาลากลางเข้ม กว่า 500 นาย รวมถึงต้องปิดถนนด้านหน้าศาลากลางจังหวัดสระบุรีจนเป็นเหตุให้การจราจรติดขัด มีประชาชนจำนวนมาก เกิดความเข้าใจผิด ลือว่า มีกลุ่ม กปปส.จ.สระบุรี ออกมาต้านเลือกตั้ง สุดท้ายไร้กลุ่มต้าน เหตุการณ์ปกติ
คนธรรมดา ม้าตัวเดียว

วันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2557

กปปส.สระบุรีเดินสายให้กำลังใจ ธนาคาร หน่วยงานราชการ

กปปส.จังหวัดสระบุรี เดินทางให้กำลังใจและขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ รพ.สระบุรีและหน่วยงานราชการ ธนาคาร สุดท้ายนำผู้แทนชาวนา บุก ธกส. จ.สระบุรี ร้องสอบถามความคืบหน้าทวงเงินค่าจำนำข้าวจากรัฐบาล ชาวนาบางส่วนร้องขอข้าวคืน
เมื่อ 24 ม.ค.57 เวลา10.00 น.กลุ่มพลังมวลชน กปปส.จังหวัดสระบุรีนำโดย นายปรีชา แป้นพัฒน์ เลขาธการ กปปส.สระบุรีได้นัดรวมตัวกันที่ รพ.ศูนย์สระบุรีเพื่อให้กำลังใจและแสดงความขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ที่แสดงพลังต้าน พรบ.นิรโทษกรรมและจุดประกายต้านคอรัปชั่น รักความถูกต้อง มีกลุ่มแพทย์พยาบาลเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลออกมาร่วมแสดงพลังเป่านกหวีดร่วมร้องเพลงกว่า 100 คนพร้อมมอบนกหวีดให้กับตัวแทนกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ รพ.สระบุรีโดยมีแพทย์หญิง พนิดา มุกดีพร้อม หัวหน้าแพทย์รังสี รพ.สระบุรีเป็นผู้รับมอบ กลุ่มกปปส.จึงได้เดินทางไปขอบคุณ ธนาคารออมสิน ที่ไม่ยอมนำเงินฝากของเด็กและคนชรา ให้กับรัฐบาลกู้ไปใช้โครงการต่างๆที่ส่อไปในทางทุจริต คอรั่ปชั่น มี นางสุดา วัชรงค์ ผจก.ธ.ออมสิน ลงมารับมอบนกหวีดและกล่าวต้อนรับ จึงเดินทางเข้าขอบคุณให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสระบุรี ที่วางตัวเป็นกลางให้บริการกับประชาชนเท่าเทียมกันโดยมี พ.ต.อ.พงษ์พันธ์ วงศ์มณีเทศ ผกก.สภ.เมือง สระบุรีให้การต้อนรับ จากนั้น จึงเดินทางไปที่ ที่ทำการเทศบาล เมือง จ.สระบุรีมีนายภาณุพงศ์ ทิพยเศวต นายกเทศมนตรี และคณะผู้บริหารลงมาต้อนรับ จึงได้เดินทางต่อไปที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระบุรีได้มีเจ้าหน้าที่ ออกมาต้อนรับร่วมเป่านกหวีดและร้องเพลง อีกด้วย จากนั้นกลุ่ม กปปส.สระบุรีจึงได้เดินทางไปกล่าวขอบคุณคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ ธกส.ทุกคน ที่แสดงเจตนาปกป้องเงินฝากของเกษตรกรโดยไม่นำเงินฝากของเกษตรกร มาให้รัฐบาลกู้ โดยกล่าวหาว่ารัฐบาลคอรั่ปชั่น หลอก ลวงชาวนาเหตุไม่มีเงินจ่าย เนื่องจากรัฐบาลไม่มีการขายหรือระบายข้าว มาใช้หนี้ ชาวนา ตามโครงการรับจำนำข้าว พร้อมได้นำตัวแทนชาวนา จาก อ.วิหารแดงและ อ.หนองแซง เข้าพบ นายประพันธ์ บุญวิวัฒนานันท์ ผอ.ธกส.และนายประพาส ทาอุบล ผจก.ธกส.สาขาสระบุรีเพื่อรับฟังข้อชี้แจงการที่รัฐบาลเบี้ยวนัดเงินค่าข้าวชาวนาและของปัญหาโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล วันเวลาที่คาดว่าจะได้รับเงินพร้อมร้องขอการช่วยเหลือชาวนาที่ยังไม่ได้รับเงินค่าจำนำข้าวโดยการลดดอกเบี้ยเงินกู้ โดยนายประพันธ์ บุญวิวัฒนานันท์ ผอ.ธกส. ได้รับเรื่องจะเสนอให้คณะผู้บริหาร.ธกส.พิจารณาต่อไป ก่อนมีการมอบนกหวีด แสดงสัญลักษณ์แทนคำขอบคุณจากกลุ่มกปปส.สระบุรี จึงสลายตัว จนเวลา 16.00 น.
(คนธรรมดา ม้าตัวเดียว)