มติครม.ประจำวันที่ 24 ม.ค.56
ครม.ไฟเขียวโผโยกย้าย 23 ผู้ว่าฯ
เมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบบัญชีโยกย้ายข้าราชการกระทรวงมหาดไทย (มท.) ชุดแรกทั้งสิ้น 23 ตำแหน่งดังนี้ 1.นายวิเชียร พุฒิวิญญู จากผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ 2.นายธนน เวชกรกานนท์ จากผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี 3.นายชนม์ชื่น บุญญานุสาสน์ จากผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม 4.นายพงศธร สัจจชลพันธ์ จากผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี 5.นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ จากผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย 6.นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ จากผู้ว่าราชการจังหวัดจังหวัดนราธิวาส เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช 7.นายสุรพล วาณิชเสนี จากรองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร 8.นายเกรียงเดช เข็มทอง จากรองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี 9.นายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ จากรองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม 10.นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ จากรองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส 11.นายอุกริช พึ่งโสภา จากรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน 12.นายชโลธร ผาโคตร จากรองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ 13.นายวิเชียร จันทรโณทัย จากรองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ 14.นายสุรพล พนัสอำพล จากรองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน 15.นายสมศักดิ์ ปะริสุทโธเหมทานนท์ จากรองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี 16.นายสุวรรณ์ กล่าวสุนทร จากรองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน
17.ว่าที่ร้อยตรีสุพีร์พัฒน์ จองพานิช จากรองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี 18.นายชยพล ธิติศักดิ์ จากรองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู 19.นายเสรี ศรีหะไตร จากรองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง 20.นายชัช กิตตินภดล จากรองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ 21.นายปวิณ ชำนิประศาสน์ จากรองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ เป็น ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง 22.นายธนาคม จงจิระ จากรองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เป็น ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง 23.นายทวี นริสศิริกุล จากรองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็น ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ---ISN 04
นายภักดีหาญส์ กล่าวว่า ขณะที่บัญชี 2 จำวน 8 ตำแหน่ง ประกอบด้วย 1.นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี 2.นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 3.นายสมศักดิ์ ปะริสุทโธ เหมทานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดหวัดตรัง 4.นายวิญญู ทองสกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงเป็นผู้ตรวจราชการมหาดไทย 5.นายเสรี ศรีหะไตร ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง 6.นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง 7.นายพิเชษฐ ไพบูลย์ศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เป็น ผู้ตรวจราชการมหาดไทย 8.นายธนาคม จงจิระ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 2 ต.ค.เป็นต้นไป ---ISN 05
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม.มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูง ดังนี้ 1.นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงพาณิชย์คนใหม่ 2.นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ ไปดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระะหว่างประเทศ 3.นางพิรมล เจริญเผ่า อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงพาณิชย์ 4.นายสมชาติ สร้อยทอง ที่ปรึกษาการพาณิชย์ ดำรงตำแหน่งเป็นอธิบดีกรมการค้าภายใน 5.นายวุฒิชัย ดวงรัตน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงพาณิชย์ 6.น.ส.อุรวี เงารุ่งเรือง ที่ปรึกษากฏหมาย ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงพาณิชย์ 7.นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ ไปดำรงตำแหน่งเป็นอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ 8.น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ ที่ปรึกษาการพาณิชย์ ไปดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า 9.น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต คณะผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การการค้าโลก(ดับเบิ้ลยูทีโอ) ณ นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ---ISN 02
ครม.อนุมัติแต่งตั้งกระทรวงการต่างประเทศ
นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครม.อนุมัติแต่งตั้งของกระทรวงการต่างประเทศ 1.นายวรเดช วีระเวคิน อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต ณ กรุงพริทอเรีย สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ 2.นายธนา เวสโกสิทธิ์ รองอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย 3.นายชลิต มานิตยกุล เอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร สาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย แทน นายพิศาล มาณวพัฒน์ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นเอกอัครราชทูต ณ กรุงออตตาวา ประเทศแคนาดา 4.นายพีรศักย จันทวรินทร์ เอกอัครราชทูตประจำกระทรวง ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร สาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ พีรวิช สุวรรณประเทศ กงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำกระทรวง 5.นายจักรี ศรีชวนะ กงสุลใหญ่ ณ เมืองฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมพิธีการทูต 6.นายนพพร อัจฉริยวนิช รองอธิบดีกรมอาเซียน ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคลัมโบ สาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา 7.ม.ร.ว.อดิศรเดช สุขสวัสดิ์ อัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ---ISN 05
ขรก.เฮ ครม.จัดงบ 3,745 ล.จ่ายโบนัส
นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ที่ประชุมเห็นชอบการจัดสรรงบประมาณเพื่อเป็นเงินรางวัลประจำปีงบประมาณ 2555 หรือโบนัสข้าราชการเพิ่มเติมจำนวน 1,400 ล้านบาท ตามที่สำนักงานพัฒนาระบบข้าราชการ (ก.พ.ร.) เสนอ ซึ่งการจัดสรรงบดังกล่าวเพิ่มเติม เพื่อให้สอดคล้องใกล้เคียงกับเงินโบนัสข้าราชการเดิมที่เคยจ่ายให้ข้าราชการเมื่อปี 2554 รวมเป็นเงินโบนัสทั้งหมด 3,745 ล้านบาท
ทั้งนี้ จะแบ่งจ่ายให้ข้าราชการระดับสูงร้อยละ 1 ข้าราชการระดับกลาง ร้อยละ 1.25 และข้าราชการระดับต้น ร้อยละ 1.4 ทั้งนี้ เพื่อจูงใจให้ข้าราชการสร้างสรรค์ผลงาน โดยส่วนราชการที่มีสิทธิรับโบนัสจะต้องผ่านเกณฑ์ในระดับมาตรฐาน และมีข้อกำชับว่า เงินที่ส่วนราชการได้รับไป ห้ามนำไปหารเฉลี่ยและจ่ายโบนัสเท่ากัน ---ISN 02
ครม.อนุมัติตั้ง "บริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์"
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 24 กันยายน ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้อนุมัติให้จัดตั้งบริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด โดยบริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) เป็นผู้ถือหุ้น 100% โดยใช้เงินจดทะเบียน 1,800 ล้านบาท ซึ่งนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม (กห.) กำชับให้การบินไทยต้องแบ่งกลุ่มตลาดของสายการบินไทย และสายการบินไทยสมายล์ให้ชัดเจน ขณะเดียวกันต้องแยกต้นทุนในการดำเนินงานออกจากการบินไทยให้ชัดเจน ไม่ใช่นำค่าใช้จ่ายรวมไว้กับบริษัท การบินไทย เหมือนเดิม
ทั้งนี้ ยังให้พิจารณาความเหมาะสมของวัฒนธรรมองค์กร เนื่องจากสายการบินไทยสมายล์เป็นสายการบินต้นทุนต่ำ ต้นทุนการดำเนินงานก็ต้องให้เหมาะสม เพื่อให้สายการบินไทยสมายล์ สามารถแข่งขับกับสายการบินต้นทุนต่ำอื่นได้ ---ISN 01
Add comment
เรวัติ น้อยวิจิตร สุพรรณอินชัวร์ดอทคอม 081-9107445
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น