เมื่อวันเสาร์ที่ 17 พฤศจิกายน 2561 เวลา 16.30 น. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เป็นประธานเปิดงาน แสดงศักยภาพของอาสาสมัครกู้ชีพ-กู้ภัย ในงานประชุมสามัญชมรมกู้ภัยในเครือสว่างฯ ครั้งที่ 32 ประจำปี 2561 ณ ลานพื้นแข็ง ศูนย์การทหารม้า ค่ายอดิศร จังหวัดสระบุรี โดยมี นายสมภพ สมิตะสิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี, พลตรีปรีชา เบญจขันธ์ ผู้บัญชาการศูนย์การทหารม้า ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดสระบุรี, ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 18, เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ และ หัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วมเป็นเกียรติในพิธี มีนายวิบูลย์ สุขอนันธรรม นายกสมาคมพุทธสมาคมสว่างรัตนตรัยธรรมสถานสระบุรี ในฐานะตัวแทนคณะกรรมการ จัดงานประชุมสามัญประจำปี ชมรมกู้ภัยในเครือสว่างฯได้จัดเตรียมความ พร้อมของอาสาสมัครกู้ชีพ-กู้ภัยในเครือสว่าง กล่าววัตถุประสงค์
การจัดงานของสมาคมหรือมูลนิธิต่างๆ ได้รวมตัวกันในนามชมรมกู้ภัยในเครือสว่าง ภายใต้การบริหารงานของ คุณวิสิทธิ์ ชวลิตนิติธรรม ประธานชมรมหน่วยกู้ภัยในเครือสว่างฯ ปัจจุบันมีทั้งหมด 73 สมาคม กระจายอยู่เกือบทุกจังหวัด ในส่วนภูมิภาค โดยแบ่งเป็นเขต เพื่อให้มีความสะดวก เหมาะสมต่อการควบคุม บังคับบัญชาเป็น 9 เขต มีเจตนารมณ์มุ่งช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ที่ประสบภัย ตามวิสัยทัศน์ “ กู้ชีพ – กู้ภัย ทุกสมาคม ทุกมูลนิธิในเครือสว่างฯ เป็น กู้ชีพ – กู้ภัย ที่มีคุณภาพของประเทศ ที่เติบโตอย่างมีดุลยภาพ โดยใช้อัตลักษณ์ ความเป็นตัวตนของแต่ละพื้นที่ดำเนินงานบนพื้นฐานความเสียสละ และรับผิดชอบ ต่อสังคม ภายใต้กฎหมายที่กำหนด ” ในแต่ละปีจะกำหนดให้มีการประชุมสามัญประจำปี โดยหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ซึ่งครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 32 สมาคมพุทธสมาคมสว่างรัตนตรัยธรรมสถานสระบุรี ในฐานะประธานเขต 3 เป็นเจ้าภาพ ทั้งนี้ เพื่อให้คณะผู้บริหารของแต่ละสมาคมหรือมูลนิธิ ได้มีโอกาสมาพบปะหารือ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ การทำงาน รวมทั้งอาสาสมัครฯได้มาพบปะสังสรรค์ ร่วมกัน แต่สิ่งที่พิเศษกว่าทุกปี ที่ผ่านมา คือ ครั้งนี้ มีการประชุมเชิงสัมมนา ของกลุ่มผู้บริหาร เพื่อจัดทำแผนแม่บทในการพัฒนาศูนย์กู้ชีพ-กู้ภัย ในเครือสว่างฯ พ.ศ.2561-2565 ( 5 ปี) ให้สามารถรองรับกับสถานการณ์ และบริบทของสังคมไทยในอนาคตอีก 5 -10 ปีข้างหน้า รวมทั้ง การแสดงความพร้อมทางด้านร่างกาย และจิตใจในความเป็นจิตอาสา ของอาสาสมัครฯด้วยการเดินสวนสนาม นอกจากนี้แล้วทางชมรมกู้ภัยในเครือสว่างฯ ยังได้นำ รถกู้ชีพ -กู้ภัย ที่มีความทันสมัย มีความพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ที่ประสบภัย มาแสดงและสาธิตการใช้ งานให้ทุกท่านได้รับชมด้วย
อธิบดี สถ. กล่าวชื่นชมอาสาสมัครกู้ภัย-กู้ชีพในเครือสว่างจิตร ว่ามีการพัฒนาอุปกรณ์จนมีความทันสมัย มีเครือข่ายกระจายอยู่ในทุกพื้นที่ของประเทศจนก้าวเข้าสู่การเป็นกู้ภัย-กู้ชีพ 4.0 ทั้งนี้งานอาสาสมัครกู้ภัยถือว่าเป็นที่น่ายกย่อง เป็นผู้เสียสละ ปฏิบัติตนต่อผู้อื่นเสมือนญาติของตน เป็นผู้ซึ่งพัฒนาความรู้ความสามารถของตนอยู่เสมอ และให้ความช่วยเหลือเพื่อนร่วมโลก ด้วยความเสมอภาคโดยไม่ต้องการสิ่งตอบแทนใดๆ ทั้งยังเป็นกำลังสำคัญของสังคมในการจัดการอุบัติเหตุ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของสาธารณสุขไทยที่ทำให้บุคคลทั้งบาดเจ็บ พิการ สูญเสียทรัพย์สิน และชีวิตก่อนวัยอันควร ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและกำลังคนในการพัฒนาประเทศชาติ
อธิบดี สถ. ยังแสดงความเป็นห่วงถึงปัญหาการขาดแคลนแพทย์ พยาบาล พนักงานกู้ชีพที่มีความเชี่ยวชาญในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติให้มีประสิทธิภาพ ถึงแม้ว่าอาสาสมัครจะมีเครื่องมือสื่อสาร และยานพาหนะออกทำหน้าที่กู้ชีพ-กู้ภัย ช่วยเหลือผู้ประสบภัย แต่อาสาสมัครยังขาดการอบรมอย่างต่อเนื่อง ในเรื่องของการดูแล และการป้องกันภัย ซึ่งเป็นข้อจำกัดเรื่องจำนวนที่นั่งในการเข้ารับการอบรมของส่วนราชการ รวมไปถึงข้อจำกัดเรื่องเวลาของอาสาสมัครที่ต้องประกอบอาชีพจึงทำให้ไม่สามารถเข้าร่วมอบรมที่จัดขึ้นได้ ซึ่งน่าจะเป็นโจทย์ของผู้เกี่ยวข้องในการหาทางแก้ไขปัญหา และออกแบบระบบการอบรมให้สอดรับกับข้อจำกัดต่างๆ โดยเร่งด่วน ทั้งนี้ก็เพื่อให้ระบบการแพทย์ฉุกเฉิน หรือระบบการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บก่อนถึงโรงพยาบาลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
หลังจากนั้น อธิบดี สถ.พร้อมแขกผู้มีเกียรติ ได้ร่วมรับชมการแสดงศักยภาพ ความพร้อมเพรียงของทีมกู้ภัย ทั้งบุคลากร ยานพาหนะ และอุปกรณ์การกู้ชีพ กู้ภัย ที่มีความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุบัติเหตุ อุบัติภัย สาธารณภัยและความเดือดร้อนในด้านอื่นๆ ต่อไป
(คนธรรมดา ม้าตัวเดียว) บรรณาธิการข่าว
เรวัติ น้อยวิจิตร Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com 081-9107445
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น