สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ หรือ วช.จัดเสวนา "ถอดรหัส ไทยแลนด์ 4.0 สร้างความได้เปรียบในการแข่งขันด้วยสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรม" ในงานวันประดิษฐ์ ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทคบางนา กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2560 โดยมีนักวิชาการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมพูดคุยให้แนวทางความเป็นไปได้ที่ประเทศไทยจะไปให้ถึง 4.0 พร้อมย้ำการเตรียมคนไปสู่ยุค 4.0 เป็นสิ่งสำคัญ ขณะเดียวกัน จะต้องปรับระบบการบริหารจัดการภาครัฐใหม่
ศ.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า ไทยแลนด์ 4.0 เป็นเป้าหมายของรัฐบาลใน ระยะยาว ตามกรอบยุทธศาสตร์ 20 ปี ซึ่งต้องมีองค์ประกอบทั้งความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ที่ผ่านมาประเทศไทยพัฒนาได้ ในระดับหนึ่งบนหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ดังนั้น การจะเข้าสู่ประเทศพัฒนาแล้ว ก็อยู่ที่กรอบแนวคิดในการปรับเปลี่ยน 4 ทิศทาง คือ
1.การสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจภายใน
2.การมีนวัตกรรมผลิตภัณฑ์มากขึ้น
3.การเน้นทุนพัฒนาคนและเทคโนโลยี
4.การกระจายของความมั่งคั่งและโอกาส
ทั้งนี้ ตามหลักคิดของเศรษฐกิจพอเพียง หมายถึงคนมีรายได้เพิ่มขึ้น อยู่ดีกินดี มีพื้นฐานความเป็นมนุษย์เพียงพอ มีการดูแลและรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งประเทศไทยจะไปสู่เป้าหมายในอีก 20 ปีข้างหน้าได้ ในแง่เศรษฐกิจ ต้องอาศัยงานวิจัยและเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการ ในแง่สังคมอย่างน้อยต้องมีปจจัย 4 และสวัสดิการสังคมอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะคนต้องไม่หยุดพัฒนาตนเอง เพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนและพัฒนาอย่างยั่งยืนอีกทั้งต้องปรับระบบการบริหารจัดการของภาครัฐด้วย ซึ่ง วช.จะใช้กลไกนำสิ่งประดิษฐ์ และนวัตกรรมที่เข้าข่าย 4.0 เข้าบัญชีสิ่งประดิษฐ์ เพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งนั้น ใช้ประโยชน์ได้จริงหรือไม่
ด้าน ดร.อดิสร เตือนตรานนท์ ที่ปรึกษาสำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ หรือ สวทน. กล่าวว่า ประเทศไทยต้องหาจุดยืน
ที่จะเปลี่ยนผ่านไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 โดยจะนำเทคโนโลยีมาช่วยอย่างไร ซึ่งขณะนี้ สวทน.ในฐานะหน่วยงานวางแผนด้านนวัตกรรมให้ถูกทาง จึงพยายามผลักดัน
เมืองนวัตกรรมอาหาร และธุรกิจเกิดใหม่ จากความคิดสู่งานวิจัยและขายได้ เช่น เปลี่ยนจากการซื้อเป็นผลิตเอง เป็นต้น
ขณที่ ดร.จันทรวิภา ธนะโสภณ รองผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย หรือ สกว.กล่าวว่า การสนับสนุนงบวิจัยจะพิจารณาเลือกเป้าหมายงานวิจัยที่มีโอกาสสำเร็จและนำไปใช้ประโยชน์ได้ เพื่อให้ประเทศไทยไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 แต่ต้องทำงานบูรณาการหลายหน่วยงาน อีกทั้งต้องปรับคนให้รู้จักคิดพัฒนาตลอดเวลา
เช่นเดียวกับแนวทางของผู้แทนจาก สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช. ที่มองว่า นักวิจัยต้องเปิดกว้าง และจะทำงานแบบต่างคนต่างทำไม่ได้ จะต้องดึงเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศมาร่วมทำงานด้วย ทั้งนี้ สวทช.จะช่วยผลักดันด้านธุรกิจนวัตกรรม ผ่านทางศูนย์บ่มเพาะเทคโนโลยี ผู้สนใจสอบถามได้ที่ สวทช. กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ศ.กิตติคุณ นพ.สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ ผู้ดำเนินรายการ สรุปในตอนท้ายว่า คนคือสิ่งสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศสู่ไทยแลนด์ 4.0 โดยจะต้องเลือกใช้สิ่งที่มีอยู่ สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง และเพื่อให้ภาคธุรกิจมีโอกาสเลือกหาสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมได้มากขึ้น ในแต่ละครั้ง จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกัน จัดงานแสดงลักษณะนี้ในอนาคต
จำนงค์ ศรัณยพิพัฒน์ เครือข่ายประชาสัมพันธ์ วช.
เรวัติ น้อยวิจิตร Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com 081-9107445
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น