จังหวัดสระบุรี มุ่งมั่นการแก้ปัญหาแรงงานจับมือโรงงานน้ำตาลและสมาคมชาวไร่อ้อย ทำ MOU ว่าด้วยการป้องกันแก้ไขแรงงานเด็กและแรงงานบังคับกิจการผลิตน้ำตาลจากอ้อย ที่ห้องประชุมสมาคมชาวไร่อ้อยเขื่อนป่าสัก บริษัทน้ำตาลสระบุรี จำกัด ต.คำพราน อ.วังม่วง จ.สระบุรี
วันนี้(17 มี.ค.2559) เวลา 13.00 น. นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังสระบุรี เป็นประธานการลงนามบันทึกข้อตกลง MOU ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการใช้แรงงานเด็กและแรงงานบังคับ โดยมีหน่วยงานภาครัฐ ประกอบด้วย สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสระบุรี นายสุวัฒน์ อินทรเฉลียว นายกสมาคมชาวไร่อ้อยเขื่อนป่าสักจังหวัดสระบุรี และนางวรรักษ์ สุภานันท์ ผู้จัดการบริษัทน้ำตาลสระบุรี จำกัด เพื่อที่จะสร้างความร่วมมือในการสร้างภาพลักษณ์และการแก้ไขปัญหาด้านแรงงาน
นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี กล่าวว่า เนื่องจากรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ได้จัดลำดับประเทศไทยอยู่บัญชีประเทศที่มีการค้ามนุษย์ กลุ่ม 3 (Tier 3 Whatch List) รวมถึงกระทรวงแรงงานสหรัฐอเมริกา กล่าวหาว่าสินค้าของไทย จำนวน 5 รายการ คือ ปลา,กุ้ง, เครื่องนุ่งห่ม อ้อย และสื่อลามก และปลา เป็นสินค้าที่ได้มาจากการใช้แรงงานเด็ก หรือแรงงานบังคับ และเหยื่อจากการค้ามนุษย์ เป็นเหตุให้นานาประเทศมีการสั่งห้ามนำเข้าสินค้าไทย อันส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจไทยอย่างร้ายแรง
ที่ผ่านมาประเทศไทยโดยรัฐบาลได้ดำเนินมาตรการในการแก้ไขปัญหามาแล้วหลายมตราการเช่นการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวให้ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย การบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด การปรับแก้กฎหมายให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล เพื่อแสดงให้นานาประเทศเห็นว่าประเทศไทยได้ให้ความสำคัญและเร่งแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง
ด้านนายปราโมทย์ ชัยศาสตรศิลป สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสระบุรี กล่าวว่า จากปัญหาที่สินค้าอ้อยและน้ำตาลของประเทศไทยถูกระบุในบัญชีหรือสินค้าที่มีเหตุผลเชื่อได้ว่ามีการใช้แรงงานเด็กและแรงงานบังคับของกระทรวงแรงงานสหรัฐอเมริกา ดังนั้นในความรับผิดชอบในด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน ทางกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน โดยสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสระบุรี ได้จัดทำข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การป้องกันแก้ไขแรงงานเด็กและแรงงานบังคับกิจการผลิตน้ำตาลจากอ้อย ในการสร้างความรู้ ความเข้าใจเรื่องการใช้แรงงานเด็กและแรงงานบังคับในกลุ่มสมาชิกชาวไร่อ้อย และบริษัทน้ำตาลสระบุรี จำกัด ที่มีลูกจ้างในโรงงาน เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา ซึ่งจังหวัดสระบุรีมีพื้นที่ปลูกอ้อยทั้งสิ้นใน 6 อำเภอ คือ อำเภอวังม่วง จำนวน 66,038 ไร่ เกษตรกรจำนวน 744 ราย อำเภอมวกเหล็ก จำนวน 40,864 ไร่ เกษตรกรจำนวน 689 ราย อำเภอแก่งคอย จำนวน 7,506 ไร่ เกษตรกร 149 ราย อำเภอพระพุทธบาท จำนวน 4,698 ไร่ เกษตรกร 54 ราย อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จำนวน 1,062 ไร่ เกษตรกร 55 ราย และอำเภอหนองโดน จำนวน 968 ไร่ เกษตรกร จำนวน 14 ราย
นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดสระบุรี มีพื้นที่ปลูกอ้อยจำนวนถึง 116,439 ไร่ เกษตรกรจำนวน 1,705 ราย มีสถานประกอบกิจการที่ผลิตน้ำตาลจากอ้อย คือ บริษัทน้ำตาลสระบุรี และมี สมาคมชาวไร่อ้อยเขื่อนป่าสัก สระบุรี ซึ่งเป็นห่วงโซ่ในการนำอ้อยไปผลิตเป็นน้ำตาล จำเป็นต้องขอความร่วมมือจากสถานประกอบกิจการและสมาคมฯได้ตระหนักถึงความสำคัญและร่วมมือป้องกันและแก้ไขปัญหาแรงงานเด็กและแรงงานบังคับอย่างจริงจังให้เกิดผลเป็นรูปธรรม หลังจากการลงนามบันทึกข้อตกลงนี้แล้ว สถานประกอบการต้องมีมาตรการปฏิเสธการรับผลผลิตอ้อยที่มาจากการใช้แรงงานเด็กแลแรงงานบังคับ ขณะเดียวกันสมาคมชาวไร่อ้อยต้องเร่งทำความเข้าใจกับเกษตรกรที่ปลูกอ้อยต้องไม่ใช้แรงงานเด็กและแรงงานบังคับโดยเด็ดขาด ในส่วนของทางราชการก็จะมีการออกตรวจแรงงานและบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นต่อไป
(คนธรรมดา ม้าตัวเดียว)
เรวัติ น้อยวิจิตร hub admin rewat.noyvijit@hotmail.com 08-1910-7445
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น