หน้าเว็บ
▼
วันพุธที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
กลุ่ม “ชาวสระบุรีผู้รักสันติสุข” บุกศาลากลาง หนุน พรบ.นิรโทษฯ
กลุ่ม “ชาวสระบุรีผู้รักสันติสุข”นำ อสม.และองค์กร,เอกชน แต่งดำ.กว่า100 บุกศาลากลาง หนุน พรบ.นิรโทษฯ
กลุ่มมวลชนจังหวัดสระบุรี ในนาม “ชาวสระบุรีผู้รักสันติสุข” ส่วนใหญ่ เป็น อสม. อ้างผู้ใหญ่สั่งแต่ดำไว้ทุกข์ นึกว่าไปร่วมกิจกรรมงานสมเด็จสังฆราช เจอป้ายหนุน พรบ.ปรองดองฯ โวย โดนหลอก พร้อมร่วมต้านฯ
เมื่อ 5 พ.ย.56 เวลา 09.00 น. กลุ่มมวลชนจังหวัดสระบุรี ในนาม “ชาวสระบุรีผู้รักสันติสุข”นำโดย นายบัญญัติ วงษ์ประยูร ประธานชมรมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดสระบุรี ร.ต.สนธยา มโหทาน ประธานสมาคม อสม.ภาคกลาง นำ มวลชน ชมรม กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จ.สระบุรี , ชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขจังหวัดสระบุรี , ชมรมการท่องเที่ยวจังหวัดสระบุรี , หอการค้าจังหวัดสระบุรี , สภาอุตสาหกรรมจังหวัดสระบุรี และพุทธสมาคมสว่างรัตนตรัยธรรมสถานสระบุรี กว่า 100 คน พร้อมคณะ นายเฉลิม วงษ์ไพร นายก อบจ.สระบุรี , นายเรวัติ แสงนิล ประธานหอการค้าจังหวัดสระบุรี , นายภิญโญ หาญศีลวัต ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสระบุรี และ นายวิรัตน์ ศรีเพ็ชร ประธานชมรมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จ.สระบุรี รวมตัวหน้าศาลากลางจังหวัดสระบุรีเพื่อยื่นหนังสือถึง นายกรัฐมนตรี และผู้นำฝ่ายค้าน ผ่าน นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ผู้ว่าราชการสระบุรี มวลชน เจอ ป้ายสนับสนุน พรบ.ปรองดอง ถอนตัวไม่ทัน โวยไม่รู้ว่าให้มาชุมนุม ผู้นำองค์กรบางคน เห็นว่าเป็นเรื่องการเมืองขอถอนตัวกลับ นายเรวัติ แสงนิล ประธานหอการค้าจังหวัดสระบุรี รู้ทัน แก้เกม โดยยื่นหนังสือปิดผนึกแสดงจุดยืน สภาหอการค้าไทย ต้าน พรบ.นิรโทษกรรม แทน
ด้านนายบัญญัติฯแกนนำ เรียกร้องขอให้ร่วมกันแก้ไขปัญหาสถานการณ์บ้านเมืองที่มีแนวโน้มอาจจะเกิดความรุนแรง นำไปสู่ความขัดแย้งและแตกแยกของคนในชาติอ้างห้วงปัจจุบันได้มีการชุมนุมเพื่อเรียกร้องทางการเมือง การแสดงออกในการสนับสนุนคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม กลุ่มฯ จึงเรียกร้องให้ทุกฝ่ายทุกกลุ่มฯ ร่วมกันแก้ปัญหาเพื่อให้เกิดความปรองดองของคนในชาติ งดเว้นการใช้กำลังตัดสินปัญหา และใช้แนวทางรัฐสภาในการแก้ไขปัญหาให้ทุกฝ่ายร่วมกันหาทางออกให้ประเทศด้วยความสงบ พร้อม กล่าวโจมตีกลุ่มกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ที่ออกมาเคลื่อนไหวชุมนุม และกล่าวสนับสนุนรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อีกด้วย
(คนธรรมดา ม้าตัวเดียว)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น