หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ศึกดวลแข้ง ฟุตบอลนัดพิเศษ ระหว่างสื่อมวลชน กับ ตำรวจอุทัยธานี

ศึกดวลแข้ง ฟุตบอลนัดพิเศษ ระหว่างสื่อมวลชนกับตำรวจ ผลผู้สื่อข่าวแพ้ 3-0 เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.56 เวลา 15.00 น.ที่สนามวิทยาลัยเทคนิค กองบังคับการตำรวจภูธร ได้จัดการแข่งขันฟุตบอลขึ้น โดยมีทีมฟุตบอลเข้าร่วมแข่งขัน 2 ทีม ทีมแรก ผู้สื่อข่าวจังหวัดอุทัยธานีนำทีมโดย นายนฤพล เหลืองพฤกษชาติ ประธานศูนย์ข่าวหนังสือพิมพ์พลังชน ดวลแข้งกับ ตำรวจเมืองอุทัยธานีนำทีมโดยพล.ต.ต.ชัชวาลย์ วชิรปาณีกุล ผู้บังคับการตำรวจจังหวัดอุทัยธานี และทีมผู้สื่อข่าวอุทัยธานีได้พ่ายแพ้ให้กับทีมตำรวจเมืองอุทัยธานี 3-0 และอีก 1 คู่ทีมผู้สื่อข่าวไทยรัฐส่วนกลางเตะกับทีมตำรวจเมืองอุทัยธานี ไทยรัฐก็แพ้ตามระเบียบ 4-1 ภายหลังจากจบการแข่งขันร่วมฉลองกันที่ ภ.จว.อุทัยธานี
ขณะที่นายนฤพล เหลืองพฤกษชาติได้มอบกระเช้าของขวัญเพื่อเป็นกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของ พล.ต.ต.ชัชวาลย์ วชิรปาณีกุล ผู้บังคับการตำรวจจังหวัดอุทัยธานีอีกด้วย นันทศักดิ์ วัฒนพานิช;

พิธีเชิดชูเกียรติและมอบพระปรมาภิไธย่อ รร.๖ นายทหารพิเศษ ฯ

พิธีเชิดชูเกียรติและมอบพระปรมาภิไธย่อ รร.๖ นายทหารพิเศษประจำ ม.พัน 11 รอ. จ.สระบุรี ผบ.ม.พัน 11 รอ.จัดพิธีแสดงความยินดีและเชิดชูเกียรติ ให้กับนายทหารพิเศษประจำหน่วย ตาม ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี และประกาศกระทรวงกลาโหม เรื่องแต่งตั้งนายทหารพิเศษ โดยมี พระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งนายทหารสัญญาบัตรเป็นนายทหารพิเศษประจำหน่วยทหารรักษาพระองค์ หน่วย กองพันทหารม้าที่ 11 รักษาพระองค์, ณ.หน้า บก.ม.พัน 11 รอ. ถ.พิชัยฯ ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี
เมื่อ26 มิ.ย.56 เวลา 13.09 น.พันโท พงศ์ณุภา เวชชาชีวะ ผู้บังคับกองพันทหารม้าที่ 11 รักษาพระองค์ได้ประกอบพิธีแสดงความความยินดีและเชิดชูเกียรติ พร้อมมอบพระปรมาภิไธ ย่อ รร. ๖, มอบประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีและพระบรมรูป รร.๖ ให้กับพลโท ณัฐชัย กสิผล ที่ปรึกษากองบัญชาการกองทัพไทย พลโท ปริญญา ทวีชัยการ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลทหารผ่านศึก พลตรี สสิน ทองภัคดี เจ้ากรมยุทธการทหารบก ที่ได้รับโปรดเกล้าเป็นนายทหารพิเศษประจำกองพันทหารม้าที่11 รักษาพระองค์โดยมี รอ.บุญยืน ขำยิ่งเกิด ฝอ.1 ม.พัน 11 รอ.กล่าวรายงาน พ.ต.อำนาจ วชิรศักดิ์โสภานะ รอง.ผบ. ม.พัน.11 รอ นำคณะนายทหาร,นายสิบและพลทหารให้การต้อนรับ.
พลโท ณัฐชัยฯ กล่าวว่า จากประวัติความเป็นมา และการปฏิบัติภารกิจของหน่วย ย่อมเป็นที่ประจักษ์แจ้งว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กองพันทหารม้าที่ ๑๑ รักษาพระองค์ฯ ได้ปฏิบัติภารกิจ อันเป็นประโยชน์อย่างยิ่งแก่กองทัพบก และต่อประเทศชาตี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะ เป็นหน่วยทหารรักษาพระองค์ ในการถวายความปลอดภัย แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตต์พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ ซึ่งเป็นหน้าที่ ที่พวกเราถือว่า เป็นภารกิจที่สำคัญ และเป็นเกียรติสูงสุดจึงขอให้ท่านทั้งหลายจงภาคภูมิใจและดำรงคุณงามความดี ความรัก ความสามัคคี ดังคำขวัญกองทัพบกที่ให้ไว้ คือเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน ผมขอขอบคุณ ผู้บังคับกองพันฯ ข้าราชการและครอบครัวทุกคนที่ได้จัดพิธีแสดงความยินดีในวันนี้ ซึ่งได้ถือว่าเป็นพิธีที่มีเกียรติ ผมจะได้จดจำไว้อย่างมิรู้ลืม และจะรักษาเกียรตินี้ไว้ด้วยชีวิต
(คนธรรมดา ม้าตัวเดียว)

ผู้ว่าฯจังหวัดสระบุรี ปล่อยแถวตรวจโครงการรับจำนำข้าว

วันนี้ (27 มิ.ย.2556 )เวลา 08.00 น. นายถาวร พรหมมีชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เป็นประธานปล่อยแถวชุดปฏิบัติการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อมูลปริมาณข้าวคงเหลือโรงสีและโกดังกลาง ตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาล โดยมี พล.ต.ต.ชลิต ปรีชาหาญ ผบก.ภ.จว.สระบุรี รองผบก. และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และชุดปฏิบัติการตรวจสอบของจังหวัดร่วมปฏิบัติการ สำหรับเข้าตรวจสอบในครั้งนี้ ถือเป็นการดำเนินการตามคำสั่งของกระทรวงพาณิชย์ ในการตรวจสอบโรงสีและโกดังเก็บข้าวสาร ที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล เกี่ยวกับข้อเท็จจริงทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ ว่ามีจำนวนปริมาณและคุณภาพตามที่กำหนดไว้หรือไม่
สำหรับชุดปฏิบัติจะเข้าตรวจสอบ ตามโรงสีและโกดังกลาง จำนวน 83 จุด ทั่วจังหวัดสระบุรี โดยแบ่งเป็นเข้าตรวจจุดรับจำนำข้าวในเขตแต่ละอำเภอ ประกอบด้วยผู้แทนกระทรวงพาณิชย์จังหวัด ผู้แทน ธนาคาร ธกส. จังหวัดฯ ผู้แทนกระทรวงการคลังจังหวัด เจ้าหน้าที่องค์การคลังสินค้า นายอำเภอท้องที่ ผู้แทน พื้นที่ตั้งโรงสีและโกดังกลาง และตำรวจท้องที่
ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี กล่าวว่า จากการตรวจสอบในภาพรวมยังไม่มีสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด จะมีก็เพียงแต่ความคาดเคลื่อนจากการนับซึ่งก็ได้ขอให้เจ้าหน้าที่ทุกคนที่รับผิดชอบในการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลครั้งนี้ ต้องดำเนินการตรวจสอบอย่างจริงจัง และรอบคอบแม่นยำเพราะเป็นนโยบายที่ นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลให้ความสำคัญ ถ้าจุดใดที่ไปปฏิบัติแล้วมีปัญหาทางเทคนิค การคำนวณจำนวนกองข้าว จำนวนกระสอบ การพบมีข้อพิรุธต่างๆ ให้รายงานตรงมาที่จังหวัดเราจะทำการส่งเจ้าหน้าที่ไปดำเนินการ ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยถ้าพบมีการกระทำผิด ทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินคดีกับเจ้าของโกดังหรือเจ้าของโรงสีทันที
(คนธรรมดา ม้าตัวเดียว)

ตำรวจสระบุรีจับกุมกลุ่มแก๊งโจรกรรมยานยนต์โดยใช้ระบบ GPS

ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีพร้อม ผู้บังคับการตำรวจ. ภ.จว สระบุรี ร่วมแถลงข่าว การจับกุมแก๊งลักรถจักรยานยนต์ ด้วยระบบ GPS ณ.กองบังคับการตำรวจ ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เมื่อ 27 มิ.ย.56 เวลา 09.00 น. พล.ต.ชลิต ปรีชาหาญ ผบก.ภ.จว.สระบุรี พ.ต.อ.อภิชาติ เรือนทิพย์ รอง ผบก.ฯ,พ.ต.อ.ฐิติพันธ์ อมรสุคนธ์ รองผบก.ฯ พ.ต.อ.ไกลเขต บุรีรักษ์ ผกก.สส.ภ.จว.สระบุรี ได้แถลงข่าว หลังจากได้สั่งการ พ.ต.ท สาโรจน์ ลิ้มวสุ ไพศาล รอง ผกก.สส.ภ.จว.สระบุรี พ.ต.ท. สุรียะ สุดกังวาน สว.สส.ภ.จว. พร้อมกับเจ้าหน้าที่ที่กก.สส.ภ.จว สระบุรี สืบสวนจับกุมกลุ่มแก๊งโจรกรรมรถยนต์จักรยานยนต์ในเขตรับผิดชอบจากกรณีในเขต อ.เมืองสระบุรี มีการโจรกรรมรถจักรยานจำนวนมากและจับกุมได้น้อย ทาง ภ.จว.สระบุรี จึงได้วางแผนเพื่อทำการจับกุมกลุ่มแก๊งคนโจรกรรมรถจักรยานยนต์ โดยจัดหาระบบติดตามรถหายทาง GPS นำมาติดตั้งกับรถจักรยานยนต์ โดยจะขอความร่วมมือกับประชาชนที่จอดรถจักรยายนต์ในสาธารณะ โดยจะขอยืมรถจักรยานยนต์ที่ใช้อยู่เป็นประจำเพื่อนำมาติดตั้ง GPS แล้วนำมาจอดตามจุดที่รถจักรยายนต์หายเป็นประจำ จำนวน 20 คัน จะนำไปจอดจุดเสี่ยงต่างตามช่วงเวลา 19.00 น. จนถึงเวลาเช้า โดยทำมาประมาณ 1 เดือน
จนมาวันที่ 25 มิ.ย. 56 ได้รับแจ้งจากศูนย์ ควบคุม 191 ของ ภ.จว.สระบุรี ว่ารถจักรยายนต์ติด GPS ที่จอดอยู่ซอย รพ.สระบุรี มีการเคลื่อนจากจุดจอดมุ่งหน้าเขต อ.เฉลิมพระเกียรติ ชุดติดตาม ออกติดตามโดยประสานกับศูนย์ควบคุมสามารถพบรถจักรยายนต์คันดังกล่าว บริเวณหน้าหมู่บ้านการเคหะ 2 ม. 10 ต.ห้วยบง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี พบว่ามีนายวิทวัสหรือเป้ แนวเมือง อายุ 21 ปี มิภูมิลำเนาอยู่ 53 ม. 9 ต.พุแค อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี เป็นผู้ขับขี่และนายอมรหรือแบงค์ เหมือนเพ็ชร์ อายุ 16 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ 34/2 ม. 5 ต.เขาดินพัฒนา อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี เป็นผู้นั่งซ้อนท้าย จึงได้กุมนายวิทวัสฯ ให้การรับสารภาพและจากการตรวจสอบพบว่านายวิทวัสฯ ยังมีหมายจับของศาล จังหวัดสระบุรี ในคดีลักรถจักรยายนต์ในเวลากลางคืน เหตุเกิด อ.เมืองสระบุรี และจากการสืบสวนขยายผลนายวิทวัสฯ กับนายอมรฯ ให้การรับสารภาพอีกว่า เมื่อประมาณปลายเดือน พ.ค.56 ได้โจรกรรมจักรยายนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟไอ สีขาว หมายเลขทะเบียน 319 สระบุรี จอดอยู่ลานจอดรถของห้างแมกโค ต.กุดนกเปล้า อ.เมือง จ.สระบุรี แจ้งหายไว้ที่ สภ.เมืองสระบุรีและ เมื่อประมาณกลางเดือน มี.ค 56 ได้โจรกรรมรถจักรยายนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟี่โน สีม่วง ไม่ติดตั้งแผ่นป้ายทะเบียน จอดอยู่บริเวณที่จอดรถใต้สะพานต่างระดับหินกอง-นครนายก แจ้งหายไว้ที่ สภ.หนองแค เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงติดตามไปตรวจยึดคืนมาได้ และยังให้การต่ออีกว่าเมื่อประมาณกลางเดือน ธ.ค 55 ได้โจรกรรมรถจักรยายนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟี่โน สีแดง จอดอยู่ใต้สะพานลอยหน้าโรงเรียนหินกองแจ้งหายไว้ที่ สภ.หนองแค ตรวจสอบแล้วไม่พบรถ
พฤติกรรมของคนร้าย จะออกตะเวนหารถจักรยายนต์ที่จอดอยู่ตามลานจอดรถหรือที่สาธารณะในเวลากลางคืน เทื่อพบว่ารถจักรยายนต์ไม่ล็อคคอรถจักรยายนต์จะใช้วิธีจูงรถออกมาจากที่จอดแล้วต่อไฟต่อตรงขับออกไปจากที่จอด หรือรถที่ลืมกุญแจรถไว้กับรถเนื่องจากรีบไปขึ้นรถเพื่อไปทำงานจนลืมถอดกุญแจรถ จะขับออกไปจากจุดที่จอด เมื่อได้รถแล้วจะนำไปขายในราคาคันละ 3,000-3,500 บาท หรือบางครั้งจะแลกกับยาบ้าในราคาคันละ 25 เม็ด ต่อคัน ขณะอยู่ในระหว่างสืบสวนติดตามพฤติการณ์ของกลุ่มผู้รับซื้อต่อไป
(คนธรรมดา ม้าตัวเดียว)

วันพฤหัสบดีที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ปล่อยแถวปฏิบัติการตรวจสอบปริมาณข้าวในโรงสีและโกดัง

ที่ สภ.เมือง จ.สุพรรณบุรี นายสุภัทร ศรีสุนทรพินิต ผวจ.สุพรรณบุรี เป็นประธานในพิธีปล่อยแถวชุดปฏิบัติการตรวจสอบปริมาณข้าวเปลือกในโรงสีและโกดัง คลังกลางที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือก มีข้าราชการตำรวจที่ทำพิธีปล่อยแถวกว่า 300 นาย นำโดย พล.ต.ต.ชัชชรินทร์ สว่างวงศ์ ผบก.ภ.จ.สุพรรณบุรี พร้อมนายตำรวจระดับรอง ผบก. หัวหน้าสถานีตำรวจในสังกัด หัวหน้าหน่วยงานข้าราชการที่เกี่ยวข้อง รวมถึงตัวแทนจากบริษัทเซอร์เวเยอร์กลาง เข้าร่วมในพิธีปล่อยแถวตรวจสอบการรับจำนำกันอย่างคึกคัก สุพรรณบุรี เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 27 มิ.ย. ที่บริเวณ สภ.เมือง จ.สุพรรณบุรี นายสุภัทร ศรีสุนทรพินิต ผวจ.สุพรรณบุรี เป็นประธานในพิธีปล่อยแถวชุดปฏิบัติการตรวจสอบปริมาณข้าวเปลือกในโรงสีและโกดัง คลังกลางที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือก มีข้าราชการตำรวจที่ทำพิธีปล่อยแถวกว่า 300 นาย นำโดย พล.ต.ต.ชัชชรินทร์ สว่างวงศ์ ผบก.ภ.จ.สุพรรณบุรี พร้อมนายตำรวจระดับรอง ผบก. หัวหน้าสถานีตำรวจในสังกัด หัวหน้าหน่วยงานข้าราชการที่เกี่ยวข้อง รวมถึงตัวแทนจากบริษัทเซอร์เวเยอร์กลาง เข้าร่วมในพิธีปล่อยแถวตรวจสอบการรับจำนำกันอย่างคึกคัก นายสุภัทร์ ศรีสุนทรพินิต ผวจ.สุพรรณบุรี เปิดเผยว่าการปล่อยแถวออกปฏิบัติการตรวจสอบการรับจำนำข้าวในครั้งนี้ จะทำพร้อมกันทุกจังหวัด เนื่องจากได้รับภารกิจสำคัญที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศตรวจสอบในเรื่องเกี่ยวกับการจำนำข้าว ตรวจสอบคลังสินค้า โรงสีที่รับจำนำ ตรวจสอบเอกสาร รวมทั้งคุณภาพของข้าว และให้สกัดกั้นการเคลื่อนย้ายข้าวเปลือกออกจากคลังสินค้า และโรงสีที่รับจำนำข้าว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันทั้งสิ้นจำนวน 1,000 นาย จาก 14 โรงพัก ทำการตรวจสอบพร้อมกันโดยลงพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สรรพากร คลัง ธ.ก.ส. กรมบัญชีกลาง บริษัทเซอร์เวเยอร์กลาง ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมการค้าภายใน ดำเนินการสุ่มตัวอย่างและส่งข้าวตัวอย่างในแต่ละจุดเข้าตรวจที่ห้องวิจัยของกรมการข้าว เพื่อตรวจสอบอีกครั้ง ในส่วนของ จ.สุพรรณบุรี ได้ทำการตรวจสอบโรงสีทั้งสิ้น 81 โรง และ คลังเก็บข้าวสารอีก 96 หลัง ทั้งนี้จากการตรวจสอบในเบื้องต้นยังไม่พบปัญหาทั้งในสต็อกข้าวในโกดังต่างๆ และในการรับจำนำ ที่สำคัญพ่อเมืองสุพรรณบุรี ยังได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเพิ่มความเข้มงวดในการทำงานอย่างละเอียด เพื่อป้องกันปัญหาทุจริตด้วย ธีรพร ชูก้าน รายงานจาก “ศูนย์สุพรรณบุรี”

๑๕๐ ปีชาตกาล มหาอำมาตย์นายก เจ้าพระยายมราช

๑๕ กรกฎาคม ๒๔๐๕ เด็กชายปั้นถือกำเนิดขึ้น ณ บ้านน้ำตก ริมแม่น้ำท่าจีนฟากตะวันออกข้างใต้ตัวเมืองสุพรรณบุรี ในวัย ๕ ขวบชีวิตต้องผลิกผันเข้ามาบวชเป็นสามเณรและบรรพชาอยู่ในกรุงเทพ มีโอกาสเล่าเรียนพระปริยัติธรรมบาลีสอบได้ "เปรียญ" ซึ่งในสมัยนั้นถือว่าสอบได้ยากยิ่ง ได้เป็น "พระมหาปั้น" แต่ในวัย ๒๒ ปีหลังสอบได้ "เปรียญ" เพียงเดือนเศษ ก็ลาสิกขาบทเป็น นายปั้น และชีวิตได้ผลิกผันครั้งสำคัญได้มีโอกาสเดินทางไปเป...็นพระอภิบาลและถวายการสอนภาษาไทยให้กับพระเจ้าลูกเธอฯ พระราชโอรสของพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงที่ประเทศอังกฤษถึง ๔ พระองค์ ได้เห็นความเจริญรุ่งเรืองของชาติตะวันตกและเล่าเีรียนภาษาอังกฤษจนแตกฉาน หลังจากกลับประเทศไทยได้ถวายการปฏิบัติหน้าที่อย่างสุดความสามารถ ได้รับมอบหมายให้ทำภารกิจสำคัญหลายอย่าง รับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาทอย่างใกล้ชิด ถึง ๔ รัชกาล ตำแหน่งสุดท้ายได้เป็นหนึ่งในคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ล้นเกล้ารัชกาลที่ ๘ (ประวัติเจ้าพระยายมราช http://th.wikipedia.org/wiki/เจ้าพระยายมราช_(ปั้น_สุขุม)
ในปี พ.ศ.๒๔๖๙ ท่านได้สละทรัพย์ส่วนตัว ๔๐,๐๐๐ บาท สร้างตึกเจ้าพระยายมราชเป็นอาคารคอนกรีตสองชั้นหลังเดียว บนที่ดินของท่านที่บ้านเกิด จ.สุพรรณบุรี มีสภาพเป็นสุขศาลาของเทศบาลเมืองสุพรรณบุรีในสมัยนั้น ตัวตึกหันหน้าเข้าสู่แม่น้ำท่าจีน เปิดบริการวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๔๖๙ และได้เปลี่ยนชื่อเป็นโรงพยบาลเจ้าพระยายมราชในเวลาต่อมา จนปัจจุบันได้รับการยกฐานะเป็น โรงพยาบาลศูนย์ขนาด ๖๒๓ เตียง
ในวันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๕ ในวาระครบรอบชาตกาลของท่าน คณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนาบ้านยะมะรัชโช (บ้านเดิมเจ้าพระยายมราช) มีมติให้จัดสร้างเหรียญที่ระลึก "๑๕๐ ปีชาตกาล มหาอมาตย์นายก เจ้าพระยายมราช" ขึ้น โดยจะมีพิธีพุทธาภิเษก-มังคลาภิเษกเหรียญ ณ วิหารหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร ในวันที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๕๖ และในวันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๖ จะมีการทำบุญในวาระครบรอบวันคล้ายวันเกิดของท่าน ๑๕๑ ปี และจะมีการจำหน่ายเหรียญที่ระลึกดังกล่าว รายได้ทั้งหมดหลังจากหักค่าใช้จ่ายจะมอบให้กองทุนเพื่อการอนุรักษ์และพัฒนาบ้านยะมะรัชโช เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้อย่างถาวรในอนาคต
ภาพวาดต้นแบบเหรียญที่ระลึก ๑๕๐ ปีชาตกาล มหาอมาตย์นายก เจ้าพระยายมราช วาดโดย อาจารย์แผน เอกจิตร จากวิทยาลัยช่างศิลป์ สุพรรณบุรี ภายหลังได้มีการแก้ไขข้อความในเหรียญเล็กน้อย
กำหนดการ พิธีพุทธาภิเษก-มังคลาภิเษก เหรียญที่ระลึก ๑๕๐ ปี ชาตกาลมหาอำมาตย์นายกเจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม) ณ วิหารหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี วันที่ ๑๐ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๖ เวลา ๑๒.๓๙ น. – ๑๖.๕๙ น. …………………………………………………………… ประธานฝ่ายสงฆ์ : พระเทพสุวรรณโมลี เจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี ประธานฝ่ายฆราวาส : นาย สมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ๑๒.๓๙ น. : คณะกรรมการ ผู้ร่วมพิธี ผู้มีเกียรติ พร้อมกันบริเวณมณฑลพิธี ๑๒.๔๙ น. : พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ ๑๐ รูป ขึ้นสู่อาสน์สงฆ์ ๑๓.๐๙ น. : ประธานในพิธีฝ่ายฆราวาส ถึงบริเวณพิธี ๑๓.๑๙ น. : ประธานในพิธีฝ่ายฆราวาส จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยเบื้องหน้าพระประธานหลวงพ่อโตในวิหาร ๑๓.๒๙ น. : นายแพทย์ ชัชรินทร์ ปิ่นสุวรรณ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช สุพรรณบุรี (ประธานคณะกรรมการการอนุรักษ์และพัฒนาบ้านยะมะรัชโช) กล่าวรายงาน ๑๔.๒๙ น. : พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ ๑๐ รูป เจริญพระพุทธมนต์ธัมมจักกัปวัตนสูตร - ถวายเครี่อง ไทยธรรม แด่พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ ๑๐ รูป ๑๔.๓๙ น. : - พระเทพสุวรรณโมลี ประธานฝ่ายสงฆ์ จุดเทียนชัย - นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ ประธานฝ่ายฆราวาส ประเคนเทียนชนวน - นาย สุภัทร์ ศรีสุนทรพินิต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี (ที่ปรึกษาคณะกรรมการการอนุรักษ์และพัฒนาบ้านยะมะรัชโช) จุดเทียนวิปัสสี - นายบุญชู จันทร์สุวรรณ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี จุดเทียนมงคลซ้าย - นายยืนยง โอภากุล (แอ๊ด คาราบาว) จุดเทียนมงคลขวา - พระสงฆ์ ๔ รูป สวดคาถาพุทธาภิเษก-มังคลาภิเษก - พระเกจิอาจารย์ ๓ รูป นั่งปรก - เจ้าคุณพระสิริสุพรรณาภรณ์ (หลวงพ่อรวย) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร - พระครูสุวรรณธรรมานุยุต (หลวงพ่อสมบุญ) เจ้าอาวาสวัดลำพันบอง - พระครูไพศาลชัยกิจ (หลวงปู่ฤาษีตาไฟ) เจ้าอาวาสวัดเทพหิรัณย์ (หนองทาระภู) ๑๖.๒๙ น.: - พระเทพสุวรรณโมลี ดับเทียนชัย - ถวายเครี่องไทยธรรม แด่พระสวดคาถาพุทธาภิเษก-มังคลาภิเษก - พระสงฆ์อนุโมทนา ผู้ร่วมพิธีกรวดน้ำ ๑๖.๕๙ น.: เสร็จพิธี หมายเหตุ : การแต่งกายผ้าไทย, ชุดสีขาวหรือสีสุภาพ
ขอบคุณข้อมูล .. ภาพ จาก .. ธนิตศักดิ์ แป้ง บ้านพลูหลวง เรวัติ น้อยวิจิตร สุพรรณอินชัวร์ดอทคอม rewat.noyvijit@hotmail.com 081-9107445

วันพุธที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ซักซ้อมผู้บริหารโรงเรียน ขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด

สพป.สระบุรี เขต 1 ซักซ้อมผู้บริหารสถานศึกษาขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2556 เวลา 09.30 น. สพป.สระบุรี เขต 1 จัดประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาผู้บริหารสถานศึกษาในการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ณ ห้องประชุมสำนักสงฆ์ถ้ำกระบอก อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี
นายสุเมธี จันทร์หอม ผอ.สพป.สระบุรี เขต 1 เปิดเผยว่า จากนโยบายรัฐบาล ด้านการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยได้จัดยุทธศาสตร์“พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด” ด้วยการรวมพลังทุกภาคส่วนเป็นพลังแผ่นดินในการต่อสู้กับยาเสพติด โดยยึดหลักผู้เสพคือผู้ป่วยที่ต้องได้รับการบำบัดรักษาให้กลับมาเป็นคนดีของสังคม และสั่งการให้มีการกำกับติดตามช่วยเหลืออย่างเป็นระบบ รวมทั้งดำเนินการป้องกันกลุ่มเสี่ยงและประชาชนทั่วไปไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ยึดหลักนิติธรรมในการปราบปรามลงโทษผู้ผลิต ผู้ค้า ผู้มีอิทธิพล และผู้ประพฤติมิชอบ มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด และดำเนินการอย่างจริงจังในการป้องกันปัญหาด้วยการแสวงหาความร่วมมือเชิงรุกกับต่างประเทศในการควบคุมและสกัดกั้นยาเสพติด สารเคมี และสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติดที่ลักลอบเข้าสู่ประเทศ ภายใต้การบริการจัดการอย่างบูรณาการและมีประสิทธิภาพ ซึ่งวัตถุประสงค์หลักของยุทธศาสตร์ ต้องการยุติสถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติด ภายใน 1 ปี จึงกำหนดเป็น “วาระแห่งชาติ” และได้มอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการ ดำเนินการสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันยาเสพติดในสถานศึกษา กำหนดมาตรการป้องกันเด็กและเยาวชนก่อนวัยเสี่ยง ไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เรียนรู้ถึงโทษและพิษภัย รู้จักวิธีปฏิเสธ หลีกเลี่ยง ยาเสพติด และใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เพื่อหลีกเลี่ยงการหมกมุ่นมั่วสุมกับยาเสพติดและอบายมุข ตลอดจนดูแลช่วยเหลือนักเรียน นักศึกษา ที่ไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จึงได้กำหนดให้ผู้บริหารสถานศึกษาทุกระดับ นำนโยบายไปสู่การปฏิบัติอย่างจริงจัง
นายสุเมธี กล่าวอีกว่า เพื่อให้นโยบายการต่อต้านยาเสพติด ขยายผลอย่างกว้างขวาง สพป.สระบุรี เขต 1 จึงจัดประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาผู้บริหารสถานศึกษาในการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้บริหารสถานศึกษานำนโยบายการป้องกันและแก้ปัญหายาเสพติดไปสู่การปฏิบัติอย่างจริงจัง ต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้บริหารสถานศึกษาดำเนินงาน 5 มาตรการ ตามโครงการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติด และดำเนินการภายใต้กลยุทธ์ 4 ต้อง 2 ไม่ และเพื่อให้ผู้บริหารสถานศึกษาส่งเสริม สนับสนุน จัดกิจกรรมการป้องกันและเฝ้าระวังยาเสพติดในสถานศึกษา
(คนธรรมดา ม้าตัวเดียว)

วันต่อต้านยาเสพติด “คนไทยหัวใจสีขาว ร่วมต้านยาเสพติด” จ.สระบุรี

วันต่อต้านยาเสพติด ปี 2556 สระบุรี “คนไทยหัวใจสีขาว ร่วมต้านยาเสพติด” ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเพสติดจังหวัดสระบุรีจัดกิจกรรมเนื่องในวันต่อต้านยาเสพติด ปี 2556โดยมีกลุ่มพลังมวลชนทั้งข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พ่อค้า ประชาชน นักเรียนนักศึกษา กลุ่มพลังแผ่นดิน และกลุ่มมวลชนต่าง ๆ เข้าร่วมกิจกรรม พร้อมร่วมใจใส่เสื้อขาว ร่วมแสดงพลังต้านยาเสพติดกว่า 800 คน ณ.หอประชุม องค์การบริหารส่วนจังหวัดสระบุรี(หลังเก่า) บริเวณศาลากลางจังหวัดสระบุรี
วันที่ 25 มิถุนายน 2556 เวลา 10.30 น. นายถาวร พรหมมีชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเพสติดจังหวัดสระบุรี เป็นประธานเปิดงาน นายชรัส บุญณสะ ปลัดจังหวัดสระบุรี กล่าวรายงานพร้อมคณะหัวหน้าส่วนราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องเกี่ยวกับการป้องกันและปรามปรามยาเสพติด จัดกิจกรรมเนื่องในวันต่อต้านยาเสพติด ปี 2556 โดยใช้คำขวัญ "ยาเสพติดจะพินาศ คนไทยทั้งชาติต้องร่วมมือกัน” ภายใต้แนวคิด"คนไทยหัวใจสีขาว ร่วมต้านยาเสพติด” เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงห่วงใยเรื่องยาเสพติด
ซึ่งจังหวัดสระบุรี ร่วมกับอำเภอเมืองสระบุรี และเทศบาลเมืองสระบุรี ได้ร่วมจัดกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์กิจกรรมเนื่องในวันต่อต้านยาเสพติด ก็เพื่อที่จะให้ให้ชุมชน ประชาสังคมและเยาวชน หน่วยงานภาคีรับรู้และเข้าใจปัญหายาเสพติด รวมทั้งให้ตระหนักถึงภัยยาเสพติด และความสำคัญของวันต่อต้านยาเสพติด การสร้างจิตสำนึกให้ทุกภาคส่วนได้ตระหนักถึง มหันต์ภัยของยาเสพติด อีกทั้งรวมกันเป็นพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด โดยมีกลุ่มพลังมวลชนทั้งข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พ่อค้า ประชาชน นักเรียนนักศึกษา กลุ่มพลังแผ่นดิน และกลุ่มมวลชนต่าง ๆ เข้าร่วมกิจกรรม พร้อมร่วมใจใส่เสื้อขาว ร่วมแสดงพลังต้านยาเสพติดกว่า 800 คน โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ได้นำพลังมวลชนกล่าวคำปฏิญาณตนและกล่าวคำประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านยาเสพติด ต่อหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ
ทั้งนี้ตามมติการประชุมสมัชชาใหญ่องค์การสหประชาชาติ เมื่อเดือน 26 มิถุนายน 2530 ได้กำหนดให้วันที่ 26 มิถุนายน ของทุกปี เป็นวันต่อต้านยาเสพติด ซึ่งประเทศไทยได้ยึดถือปฏิบัติและยืนยันเจตนารมณ์อย่างแน่วแน่ที่จะร่วมกับประชาคมโลกในการรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด โดยมีหน่วยงาน/องค์กรภาคีที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ร่วมกันจัดกิจกรรมรณรงค์พิเศษต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2531จนถึงปัจจุบัน
และรัฐบาลได้กำหนดนโยบายให้ปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ โดยมียุทธศาสตร์ "พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด” เป็นยุทธศาสตร์หลักในการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ด้วยการระดมสรรพกำลังของทุกภาคส่วนร่วมเป็นพลังแผ่นดินในการเอาชนะยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. ในฐานะหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบงานยาเสพติด จึงกำหนดเร่งดำเนินงานตามแผนการปฏิบัติ เพื่อสนองต่อนโยบายรัฐบาล รวมถึงการกำหนดนโยบายในการรณรงค์ประชาสัมพันธ์และจัดกิจกรรมให้สอดรับกับแผนและยุทธศาสตร์การดำเนินงานการแก้ไขปัญหายาเสพติดของรัฐบาล (คนธรรมดา ม้าตัวเดียว)

งาน “ญ” ผู้หญิงผู้สร้างโลก องค์ความรู้ชุมชนภาคเหนือตอนล่างสู่อาเซียน

เปิดตำนานพระวิสุทธิกษัตริย์ สตรีผู้สูงศักดิ์ในหน้าประวัติศาสตร์ สู่หลากหลายความสามารถของผู้หญิงยุคปัจจุบัน ในงาน “ญ” ผู้หญิงผู้สร้างโลก องค์ความรู้ชุมชนภาคเหนือตอนล่างสู่อาเซียน
“พระวิสุทธิกษัตริย์” พระราชมารดาแห่งวีรกษัตริย์ไทย สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเอกาทศรถ และวีรสตรี พระสุพรรณกัลยา พระองค์ทรงเป็นพลังสำคัญ เบื้องหลังการปกป้องบ้านเมือง กอบกู้กรุงศรีอยุธยาจากประเทศพม่า ด้วยความเสียสละในบทบาทของพระอัครมเหสีแห่งเมืองพิษณุโลก และหน้าที่ของความเป็นแม่ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและความภาคภูมิใจของชาวสถานอารยธรรมศึกษา โขง-สาละวิน มหาวิทยาลัยนเรศวร ในการปฏิบัติภารกิจด้านทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมภายใต้ชื่ออาคารวิสุทธิกษัตริย์ จึงนำไปสู่การจัดงาน “ญ” ผู้หญิงผู้สร้างโลก องค์ความรู้ชุมชนภาคเหนือตอนล่างสู่อาเซียน ในวันที่ ๕ – ๙ สิงหาคม ๒๕๕๖ ณ อาคารวิสุทธิกษัตริย์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ผู้หญิงกับประวัติศาสตร์
รองศาสตราจารย์ ดร.สุเนตร ชุตินธรานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้เชี่ยวชาญด้านสถาบันกษัตริย์ในมิติของประวัติศาสตร์อยุธยา พาย้อนเปิดพระวิสุทธิกษัตริย์ สตรีผู้สูงศักดิ์ในหน้าประวัติศาสตร์ บุคคลสำคัญแห่งราชสำนักเมืองพิษณุโลก เชื่อมต่อกับช่วงเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์จากยุคของการเสียกรุง สู่การกอบกู้เอกราชในสมัยของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ผู้หญิงกับผ้าทอ ศาสตรา พัสตราภรณ์ : อาวุธของผู้หญิงที่ส่งผลต่อสังคม เศรษฐกิจและการเมือง โดยนางสาวลาโมน่า ชีสแมน ผู้เชี่ยวชาญเรื่องผ้าทอจากร้านสตูดิโอแน่นหนา จังหวัดเชียงใหม่ และนางสาวรวีวรรณ ขนาดนิด ประธานกลุ่มทอผ้า อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย และเจ้าของร้านสุนทรีผ้าไทย พร้อมการแสดงแบบผ้าไทย นำเสนอความวิจิตรประณีตของผ้าโบราณ สู่การประยุกต์พัฒนาเป็นเครื่องแต่งกายร่วมสมัย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในแบบสากล ผู้หญิงกับวัฒนธรรมและศิลปะ นางปริศนา พงษ์ทัดศิริกุล ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม และดร.เปรมฤดี ชามพูนท ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดพิษณุโลก ร่วมเสวนาเรื่องราวของผู้หญิงกับพลังแห่งการขับเคลื่อนศิลปะและวัฒนธรรม ทั้งในอดีตและปัจจุบัน รวมถึงศิลปะร่วมสมัย ตลอดจนเรื่องราวของผู้หญิง ศิลปะ มุมมองที่แตกต่าง โดยกลุ่มศิลปินภาคเหนือตอนล่าง ผู้หญิงกับสุขภาพและความงาม หลากหลายเรื่องราวของสมุนไพรที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและความงาม การวิจัยต่อยอดสมุนไพรในเชิงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การประยุกต์ใช้ รวมไปถึงผลดี ผลเสียในระยะยาวจากการใช้สมุนไพร โดย รองศาสตราจารย์ ดร.จารุภา วิโยชน์ และรองศาสตราจารย์ ดร.กรกนก อิงคนินันท์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เจ้าของผลงานวิจัยสมุนไพรพรมมิ ที่มีสรรพคุณบำรุงสมอง และบำบัดอาการอัลไซเมอร์ พร้อมด้วยนางรสสุคนธ์ ศรีอ่อน หัวหน้างานส่งเสริมสุขภาพและบริการ โรงพยาบาลรัตนเวช พิษณุโลก
ผู้หญิงกับอาหาร ผู้ช่วยศาสตราจารย์บุหลัน พิทักษ์พล ผู้เชี่ยวชาญพิเศษและอดีตผู้อำนวยการสถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กับเรื่องราวของอาหารไทยภายใต้วิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป เรื่องของวิทยาศาสตร์การอาหาร เรื่องของสุขภาพอนามัย เรื่องของอาหารชาติพันธุ์อันเป็นความรู้ในแต่ละท้องถิ่นที่เกี่ยวพันกับทรัพยากรธรรมชาติ พร้อมการนำเสนอผลงานภายใต้โครงการสืบค้นข้อมูลและพัฒนาฐานข้อมูลวิถีชีวิตที่สอดคล้องกับปัจจัยสี่ ในเขตพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ด้านอาหาร โดยภาควิชาอุตสาหกรรมเกษตร คณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวร นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมการแข่งขันตอบปัญหา การประกวดสุนทรพจน์ การประกวดอาหาร การประกวด วาดภาพ การประกวดแต่งผ้าทอ พร้อมการจำหน่ายอาหารและสินค้าโอท็อป เติมเต็มองค์ความรู้ ความจรรโลงใจในนิทรรศการพระราชวังจันทน์ ราชสำนักเมืองพิษณุโลก ผู้หญิงกับศาสตร์สมุนไพรแห่งความงาม อาหารของกลุ่มชาติพันธุ์ในอนุภูมิภาคภาคเหนือตอนล่าง ศิลปกรรม “ญ” ผู้หญิงผู้สร้าง และนิทรรศการพัสตราภรณ์ ซึ่งจัดแสดงจนถึงวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๖ “เรื่องราวเหล่านี้ล้วนเป็นองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับคนในเขตภาคเหนือตอนล่าง ให้เข้าใจในรากเหง้าของตนเอง อันจะนำไปสู่การเชื่อมต่อองค์ความรู้ดั้งเดิมของเรากับชาติพันธุ์ต่าง ๆ ในอาเซียน เพื่อการร้อยรัดเป็นประชาคมอาเซียนในปีพ.ศ.๒๕๕๘ ต่อไป” นี่คือเป้าหมายแห่งความสำเร็จของดร.วศิน ปัญญาวุธตระกูล ผู้อำนวยการ สถานอารยธรรมศึกษา โขง-สาละวิน มหาวิทยาลัยนเรศวร
พรปวีณ์ ทองด้วง นักประชาสัมพันธ์ สถานอารยธรรมศึกษา โขง-สาละวิน มหาวิทยาลัยนเรศวร

วันอังคารที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556

จ.สระบุรี จัดเสวนา ยุติธรรมทางเลือก และ ยุติธรรมเชิงสมานฉันท์

เสวนา ความเป็นไปได้ในการนำยุติธรรมทางเลือกและยุติธรรมเชิงสมานฉันท์มาใช้ในจังหวัดสระบุรี สำนักงานยุติธรรมจังหวัดสระบุรีจัดโครงการเสวนาหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมระดับจังหวัดสระบุรีความเป็นไปได้ในการนำยุติธรรมทางเลือกและยุติธรรมเชิงสมานฉันท์มาใช้ในจังหวัดสระบุรี ณ.ห้องประชุม สวนริมเขา ฮิลล์ปาร์ค อ.เมือง จ.สระบุรี
เมื่อ25 มิ.ย.56 เวลา 09.00 น.นายณรงค์ ขำเพชร ผอ.สนง.คุมประพฤติ จังหวัดสระบุรี ปฏิบัติหน้าที่ หัวหน้า.สนง.ยุติธรรมจังหวัดสระบุรี จัดโครงการเสวนา หน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมระดับจังหวัดสระบุรีความเป็นไปได้ในการนำยุติธรรมทางเลือกและยุติธรรมเชิงสมานฉันท์มาใช้ในจังหวัดสระบุรี โดยมี นายถาวร พรหมมีชัย ผวจ.สระบุรี เป็นประธานเปิดงาน มีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิประกอบด้วย นายชัยวัฒน์ พงษ์บุญ นิติกรปกครองจังหวัดสระบุรี น.ส.นิตยา เมืองมูล อัยการจังหวัด สนง.คุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน นายปณัฐ สมบูรณสิน ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดสระบุรี นายสว่าง สามปลื้ม นายก อบต.ตำบลดาวเรือง ซึ่งได้รับความสนใจจาก กลุ่มเครือข่ายอาสาสมัครยุติธรรมชุมชน,เครือข่ายคุ้มครองสิทธิ,ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ อัยการ เข้าร่วมเสวนาในครั้งนี้ด้วย
นายณรงค์ ขำเพชร กล่าวว่า ด้วยสำนักงานยุติธรรมจังหวัดสระบุรี เห็นความสำคัญของความปรองดองและความสมานฉันท์ในสังคมว่าเป็นเรื่องที่จะต้องส่งเสริมและเสริมสร้างความสมัครสมานสามัคคี เพราะความขัดแย้งและการพิพากทวีความรุนแรงมากขึ้นเกิดเป็นคดีความขึ้นสู่การพิจารณาในชั้นศาลมากขึ้นจึงนำกระบวนการยุติธรรมทางเลือกและยุติธรรมเชิงสมานฉันท์มาใช้ให้เกิดเป็นรูปธรรม
สำนักงานยุติธรรมจังหวัดสระบุรี จึงจัดโครงการเสวนาหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมระดับจังหวัดสระบุรี เรื่อง ความเป็นไปได้ในการนำยุติธรรมทางเลือกและยุติธรรมเชิงสมานฉันท์มาใช้ในจังหวัดสระบุรี เพื่อให้เกิดแนวทางการนำกระบวนการยุติธรรมทางเลือกและยุติธรรม เชิงสมานฉันท์มาใช้และเกิดความรวดเร็วแก่ประชาชน เกิดความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานยุติธรรมและกระบวนการยุติธรรมในจังหวัดสระบุรี องค์กรปกครองท้องถิ่น ชุมชนและประชาชนทั่วไป ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจประสานงานกัน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชนให้เกิดเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
-------------------------------------------------- ปภาวี/ ข่าว ศิริรัตน์/พิมพ์ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสระบุรี โทร. 0-3631-3433, 0-3621-2947